5 วิธีทำงานกับคนที่เรา “เหม็นหน้า” แบบมืออาชีพ
17 ต.ค. 2021
5 วิธีทำงานกับคนที่เรา “เหม็นหน้า” แบบมืออาชีพ | THE BRIEFCASE
เมื่อชีวิตเราเข้าสู่โลกการทำงาน ต้องพบปะพูดคุยกับผู้คนมากหน้าหลายตา
คงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะชอบทุกคนบนโลกใบนี้ ในทำนองเดียวกัน ก็คงไม่ใช่ทุกคนที่จะชื่นชอบในตัวเรา
แน่นอนว่า ถ้าเราได้ทำงานกับคนที่เราอยากทำงานด้วย ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าวันหนึ่งเราต้องไปทำงานร่วมกับคนที่เราไม่ชอบหรือเหม็นหน้า แม้ใจเราไม่อยากจะทำงานนี้ แต่หากจะปฏิเสธว่าขอไม่ทำงานด้วย ก็ดูจะไม่มีความเป็นมืออาชีพสักเท่าไร
คำถามก็คือ แล้วเราควรจะทำอย่างไร เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่ต้องสะท้อนให้เห็นถึง “ความเป็นมืออาชีพ” ของตัวเราได้มากที่สุด ?
1. เริ่มต้นที่ “ความรู้สึก” ของตัวเอง
ต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนใจคนอื่นได้ แต่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อคนอื่นได้
เพราะแม้ว่าเราจะไม่ชอบใครเป็นการส่วนตัว
ทั้งเรื่องนิสัยใจคอ หรือการกระทำ จนทำให้เราไม่อยากเจอหน้าหรือทำงานกับเขา
แต่ไม่ว่าเราจะไม่ชอบเขาสักแค่ไหน เราเองก็ไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงเขาคนนั้นได้ ถ้าหากว่าเขาไม่คิดที่จะเปลี่ยนตัวเองก่อน
ดังนั้น จุดสำคัญของข้อนี้ก็คือ “ต้องมองข้าม” สิ่งที่เราไม่ชอบในตัวคนคนนั้น
แล้วให้ “โฟกัสเนื้องาน” เพียงอย่างเดียว โดยไม่เสียสมาธิหรือวอกแวกไปกับอคติ หรือความรู้สึกไม่ชอบของเราที่มีต่อคนคนนั้น
2. แยก “เรื่องส่วนตัว” กับ “เรื่องงาน” ออกจากกันอย่างเด็ดขาด
ลองพยายามแยกเรื่องส่วนตัว กับเรื่องงานออกจากกัน ไม่ให้มาปะปนกัน
แม้ว่าในระหว่างที่เราทำงานกับคนนี้ จะมีปัญหาถกเถียงกันเรื่องงาน เรื่องทัศนคติการทำงาน และด้วยความที่เราไม่ได้ชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาจทำให้เกิดการทะเลาะ จนเป็นปัญหาลุกลามบานปลายได้
พอเรื่องเป็นแบบนี้ สิ่งที่เราควรคิดอยู่เสมอก็คือ อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวที่เราไม่ชอบเขามาปนกับเรื่องงาน เราต้องคิดว่า งานที่เรากำลังทำนั้น ไม่ใช่เป็นงานส่วนตัวของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของส่วนรวมหรือเป็นเรื่องของบริษัทที่จะต้องทำให้สำเร็จ
3. บริหารจัดการ “สุขภาพจิต” ของตัวเอง
เราต้องรู้จักผ่อนคลาย เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะทำให้เราอารมณ์เสีย
เมื่อรู้ว่าเราได้รับงานที่จำเป็นต้องทำร่วมกับคนที่เราไม่ชอบเขา หรือเขาไม่ชอบเรา
สิ่งสำคัญเลยก็คือ “เตรียมตัวเตรียมใจ” ที่อาจจะต้องมาเจอกับสถานการณ์แย่ ๆ
ไม่ว่าจะมาจาก คำพูด การกระทำของอีกฝ่าย ที่อาจจะทำให้เราหัวเสียได้ง่าย ๆ
ดังนั้น ทางออกของสถานการณ์นี้ก็คือ “การควบคุมสติ”
คำนึงไว้ในใจเสมอว่า เราจะไม่เสียเวลาไปในทุกเรื่อง และไม่แสดงพฤติกรรมแย่ ๆ ออกมา
แต่เราจะชดเชยสิ่งเลวร้ายนี้ ด้วยการหาเวลาพักผ่อนรักษาสุขภาพจิตของตัวเราเอง
เช่น เดินไปจิบกาแฟหอม ๆ ออกไปเดินผ่อนคลาย สูดอากาศบริสุทธิ์ แล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่
อย่าลืมว่า.. แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่ต้องเก็บอาการเหล่านี้
แต่เชื่อมั่นได้เลยว่า ทางออกนี้จะสะท้อนถึง คุณภาพในการทำงานของตัวเราเอง
เพราะความรู้ความสามารถ วุฒิภาวะ และการจัดการอารมณ์ กำลังเป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญในการทำงานของคนยุคนี้
3. ทำตัวเองให้เป็น “มืออาชีพ”
หลายคนอาจมองว่า ถ้าเราทำงานกับคนที่เราไม่ชอบ
แล้วเราลองแกล้งทำตัวให้ชอบคนเหล่านั้น เช่น พูดจาดี, ทำตัวดี, มีน้ำใจ หรือเห็นด้วยในทุกเรื่อง
ก็อาจจะทำให้เขาคนนั้น กลับมาชื่นชอบเรามากขึ้นได้
แต่จริง ๆ แล้ว เราคงไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองเช่นนั้น
เพราะจะกลายเป็น “การบังคับจิตใจ” ของตัวเราเอง จนเกินไป
ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำก็คือ แค่ทำตัวเป็นมืออาชีพ
ว่ากันไปเรื่องงาน เรื่องไหนถูกก็ว่าถูก เรื่องไหนผิดก็ว่าผิด เท่านั้นเอง
4. ขอคำแนะนำจาก หัวหน้า หรือ ฝ่ายบุคคล
หากวันนี้เราลองทำมาทุกวิถีทางแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น การแยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน, การทำตัวเป็นมืออาชีพ, การรู้จักผ่อนคลาย
แต่เรายังคงมีปัญหาเรื่องงานกับคนที่เราไม่ชอบอยู่ดี
จนทำให้การทำงานนั้นไม่ราบรื่น และดูเหมือนว่า งานชิ้นนี้จะทำออกมาไม่สำเร็จ
สิ่งที่เราควรทำโดยด่วนก็คือ การเล่าปัญหาของการทำงาน พร้อมทั้งขอคำแนะนำจากหัวหน้าหรือฝ่ายบุคคลซึ่งการแก้ไขอาจจะเป็นการประชุมรวมทั้ง 2 ฝ่ายมาปรับความเข้าใจกัน เพื่อยุติปัญหา ซึ่งถ้ายังคงหาข้อยุติไม่ได้ ก็อาจจะใช้วิธีเปลี่ยนคนทำงาน มารับผิดชอบหน้าที่นั้นต่อไป
อ่านมาถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า เมื่อเราต้องมาทำงานกับคนที่เราไม่ชอบหรือเหม็นหน้า
หน้าที่ของเรา ไม่ใช่การเปลี่ยนใจใคร หรือการทำให้ใครต้องมาเอาใจเรา
แต่จุดหมายของเราคือ การรับผิดชอบหน้าที่นั้น ๆ ให้งานออกมาลุล่วงไปได้ด้วยดี
ซึ่งถ้าเราทำได้ การกระทำและผลงานก็จะสะท้อนแล้วว่า การทำงานของเราเป็นมืออาชีพ มากแค่ไหน..
เพราะอย่าลืมว่า ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ในยุคนี้
เขาไม่ได้วัดกันที่ “คำพูด” แต่มองกันที่ “การกระทำ” และ “การจัดการอารมณ์” กันหมดแล้ว..
References
-https://www.forbes.com/sites/nicolelipkin/2019/01/30/how-to-work-with-someone-you-dont-like/?sh=7c0b19c65fe4
-https://cloudemployee.co.uk/blog/productivity/how-to-work-with-people-you-dont-like
เมื่อชีวิตเราเข้าสู่โลกการทำงาน ต้องพบปะพูดคุยกับผู้คนมากหน้าหลายตา
คงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะชอบทุกคนบนโลกใบนี้ ในทำนองเดียวกัน ก็คงไม่ใช่ทุกคนที่จะชื่นชอบในตัวเรา
แน่นอนว่า ถ้าเราได้ทำงานกับคนที่เราอยากทำงานด้วย ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าวันหนึ่งเราต้องไปทำงานร่วมกับคนที่เราไม่ชอบหรือเหม็นหน้า แม้ใจเราไม่อยากจะทำงานนี้ แต่หากจะปฏิเสธว่าขอไม่ทำงานด้วย ก็ดูจะไม่มีความเป็นมืออาชีพสักเท่าไร
คำถามก็คือ แล้วเราควรจะทำอย่างไร เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่ต้องสะท้อนให้เห็นถึง “ความเป็นมืออาชีพ” ของตัวเราได้มากที่สุด ?
1. เริ่มต้นที่ “ความรู้สึก” ของตัวเอง
ต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนใจคนอื่นได้ แต่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อคนอื่นได้
เพราะแม้ว่าเราจะไม่ชอบใครเป็นการส่วนตัว
ทั้งเรื่องนิสัยใจคอ หรือการกระทำ จนทำให้เราไม่อยากเจอหน้าหรือทำงานกับเขา
แต่ไม่ว่าเราจะไม่ชอบเขาสักแค่ไหน เราเองก็ไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงเขาคนนั้นได้ ถ้าหากว่าเขาไม่คิดที่จะเปลี่ยนตัวเองก่อน
ดังนั้น จุดสำคัญของข้อนี้ก็คือ “ต้องมองข้าม” สิ่งที่เราไม่ชอบในตัวคนคนนั้น
แล้วให้ “โฟกัสเนื้องาน” เพียงอย่างเดียว โดยไม่เสียสมาธิหรือวอกแวกไปกับอคติ หรือความรู้สึกไม่ชอบของเราที่มีต่อคนคนนั้น
2. แยก “เรื่องส่วนตัว” กับ “เรื่องงาน” ออกจากกันอย่างเด็ดขาด
ลองพยายามแยกเรื่องส่วนตัว กับเรื่องงานออกจากกัน ไม่ให้มาปะปนกัน
แม้ว่าในระหว่างที่เราทำงานกับคนนี้ จะมีปัญหาถกเถียงกันเรื่องงาน เรื่องทัศนคติการทำงาน และด้วยความที่เราไม่ได้ชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาจทำให้เกิดการทะเลาะ จนเป็นปัญหาลุกลามบานปลายได้
พอเรื่องเป็นแบบนี้ สิ่งที่เราควรคิดอยู่เสมอก็คือ อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวที่เราไม่ชอบเขามาปนกับเรื่องงาน เราต้องคิดว่า งานที่เรากำลังทำนั้น ไม่ใช่เป็นงานส่วนตัวของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของส่วนรวมหรือเป็นเรื่องของบริษัทที่จะต้องทำให้สำเร็จ
3. บริหารจัดการ “สุขภาพจิต” ของตัวเอง
เราต้องรู้จักผ่อนคลาย เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะทำให้เราอารมณ์เสีย
เมื่อรู้ว่าเราได้รับงานที่จำเป็นต้องทำร่วมกับคนที่เราไม่ชอบเขา หรือเขาไม่ชอบเรา
สิ่งสำคัญเลยก็คือ “เตรียมตัวเตรียมใจ” ที่อาจจะต้องมาเจอกับสถานการณ์แย่ ๆ
ไม่ว่าจะมาจาก คำพูด การกระทำของอีกฝ่าย ที่อาจจะทำให้เราหัวเสียได้ง่าย ๆ
ดังนั้น ทางออกของสถานการณ์นี้ก็คือ “การควบคุมสติ”
คำนึงไว้ในใจเสมอว่า เราจะไม่เสียเวลาไปในทุกเรื่อง และไม่แสดงพฤติกรรมแย่ ๆ ออกมา
แต่เราจะชดเชยสิ่งเลวร้ายนี้ ด้วยการหาเวลาพักผ่อนรักษาสุขภาพจิตของตัวเราเอง
เช่น เดินไปจิบกาแฟหอม ๆ ออกไปเดินผ่อนคลาย สูดอากาศบริสุทธิ์ แล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่
อย่าลืมว่า.. แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่ต้องเก็บอาการเหล่านี้
แต่เชื่อมั่นได้เลยว่า ทางออกนี้จะสะท้อนถึง คุณภาพในการทำงานของตัวเราเอง
เพราะความรู้ความสามารถ วุฒิภาวะ และการจัดการอารมณ์ กำลังเป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญในการทำงานของคนยุคนี้
3. ทำตัวเองให้เป็น “มืออาชีพ”
หลายคนอาจมองว่า ถ้าเราทำงานกับคนที่เราไม่ชอบ
แล้วเราลองแกล้งทำตัวให้ชอบคนเหล่านั้น เช่น พูดจาดี, ทำตัวดี, มีน้ำใจ หรือเห็นด้วยในทุกเรื่อง
ก็อาจจะทำให้เขาคนนั้น กลับมาชื่นชอบเรามากขึ้นได้
แต่จริง ๆ แล้ว เราคงไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองเช่นนั้น
เพราะจะกลายเป็น “การบังคับจิตใจ” ของตัวเราเอง จนเกินไป
ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำก็คือ แค่ทำตัวเป็นมืออาชีพ
ว่ากันไปเรื่องงาน เรื่องไหนถูกก็ว่าถูก เรื่องไหนผิดก็ว่าผิด เท่านั้นเอง
4. ขอคำแนะนำจาก หัวหน้า หรือ ฝ่ายบุคคล
หากวันนี้เราลองทำมาทุกวิถีทางแล้ว
ไม่ว่าจะเป็น การแยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน, การทำตัวเป็นมืออาชีพ, การรู้จักผ่อนคลาย
แต่เรายังคงมีปัญหาเรื่องงานกับคนที่เราไม่ชอบอยู่ดี
จนทำให้การทำงานนั้นไม่ราบรื่น และดูเหมือนว่า งานชิ้นนี้จะทำออกมาไม่สำเร็จ
สิ่งที่เราควรทำโดยด่วนก็คือ การเล่าปัญหาของการทำงาน พร้อมทั้งขอคำแนะนำจากหัวหน้าหรือฝ่ายบุคคลซึ่งการแก้ไขอาจจะเป็นการประชุมรวมทั้ง 2 ฝ่ายมาปรับความเข้าใจกัน เพื่อยุติปัญหา ซึ่งถ้ายังคงหาข้อยุติไม่ได้ ก็อาจจะใช้วิธีเปลี่ยนคนทำงาน มารับผิดชอบหน้าที่นั้นต่อไป
อ่านมาถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า เมื่อเราต้องมาทำงานกับคนที่เราไม่ชอบหรือเหม็นหน้า
หน้าที่ของเรา ไม่ใช่การเปลี่ยนใจใคร หรือการทำให้ใครต้องมาเอาใจเรา
แต่จุดหมายของเราคือ การรับผิดชอบหน้าที่นั้น ๆ ให้งานออกมาลุล่วงไปได้ด้วยดี
ซึ่งถ้าเราทำได้ การกระทำและผลงานก็จะสะท้อนแล้วว่า การทำงานของเราเป็นมืออาชีพ มากแค่ไหน..
เพราะอย่าลืมว่า ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ในยุคนี้
เขาไม่ได้วัดกันที่ “คำพูด” แต่มองกันที่ “การกระทำ” และ “การจัดการอารมณ์” กันหมดแล้ว..
References
-https://www.forbes.com/sites/nicolelipkin/2019/01/30/how-to-work-with-someone-you-dont-like/?sh=7c0b19c65fe4
-https://cloudemployee.co.uk/blog/productivity/how-to-work-with-people-you-dont-like