เส้นทางของ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว พันล้าน
24 ก.ค. 2021
เส้นทางของ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว พันล้าน | THE BRIEFCASE
ถ้าถามว่า ร้านสตรีตฟูดที่มีสาขาจำนวนมากที่สุด แห่งหนึ่งในประเทศไทย คือร้านไหน ? หลายคนน่าจะนึกถึง ร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว
รู้ไหมว่าวันนี้ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว มีอยู่กว่า 4,500 สาขา
เส้นทางของชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
ร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นรายนี้ มีรายได้เท่าไร วันนี้เราจะไปหาคำตอบกัน..
จุดเริ่มต้นของร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยวเกิดมาจากคุณพันธ์รบ กำลา อดีตเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง ที่ฐานะทางครอบครัวไม่ได้ดีมากนัก จึงทำให้เขามีโอกาสเรียนหนังสือถึงแค่ชั้น ป.4 หลังจากนั้นต้องออกมาช่วยครอบครัวทำนา
แต่การทำนาก็จะต้องทำเป็นฤดูกาล ทำให้เมื่อไม่สามารถทำได้ตลอดทั้งปี ทำให้คุณพันธ์รบเริ่มมองหารายได้จากทางอื่น
และเริ่มมุ่งเข้าสู่เมืองที่มีโอกาสหารายได้ได้มากกว่า นั่นคือ กรุงเทพมหานคร
คุณพันธ์รบเข้ามาทำงานรับจ้างหลายอย่างในกรุงเทพมหานคร โดยเป็นตั้งแต่พนักงานรักษาความปลอดภัย เซลส์ขายนอต คนทำสวน ไปจนถึงพ่อค้าขายไอศกรีม
โดยเฉพาะอาชีพขายไอศกรีมนั้น เป็นงานที่เขาบอกว่า เขาได้เรียนรู้เทคนิคในการขายโดยที่เชื่อว่าไม่มีตำราเล่มไหนเคยสอนมาก่อน
ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า เวลาที่เขาขายไอศกรีมนั้น จะเริ่มจากวางแผน ควรต้องเข้าซอยไหน เพื่อประหยัดทั้งเวลาและพลังงานในการทำงานของเขา
ถ้าซอยไหนเด็กเยอะ เขาพยายามไปบ่อย ๆ เมื่อเจอซอยแล้ว ตอนเข้าจะพยายามเดินให้เร็ว สั่นกระดิ่งให้ดังให้เด็กได้ยิน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้เตรียมตัวไปขอเงินพ่อแม่
ส่วนขากลับจะพยายามเดินให้ช้า เพื่อรอให้เด็ก ๆ ไปเอาเงินมาซื้อ ถ้าพ่อแม่ทำท่าไม่อยากควักเงินเพื่อให้เขาไปก่อน เขาก็จะแกล้งทำเป็นรถเสียเพื่อรอเด็ก ๆ มาซื้อ
ด้วยกลยุทธ์ที่เขาเรียนรู้จากการสั่งสมประสบการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เขาสามารถทำยอดขายสูงสุดจากบรรดาคนขายไอศกรีมทั้งหมดของร้าน ถึงขนาดเจ้าของร้านบอกว่า เขานั้นเป็นนักขายไอศกรีมมือทองเลยทีเดียว
จากพ่อค้าขายไอศกรีม จุดหักเหของคุณพันธ์รบเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2535 เมื่อน้องชายชวนเขามาขายก๋วยเตี๋ยวแถวปทุมธานี
ช่วงแรกในการเป็นพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว เขาก็ประสบกับปัญหาบ้าง เนื่องจากไม่เคยทำอาชีพนี้มาก่อน แต่ด้วยความที่มีสายเลือดพ่อค้าอยู่ในตัว เขาก็มุ่งมั่นและค่อย ๆ ปรับปรุง พัฒนาการทำก๋วยเตี๋ยวของเขาจนทำให้ลูกค้าหลายคนเริ่มติดใจ
ไม่เพียงแต่การทำก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น เขาศึกษาเรื่องทำเลของร้าน การดูแลลูกค้า รวมไปถึงการใส่ใจในเรื่องความสะอาด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจร้านอาหาร
คุณพันธ์รบบอกว่า สมัยที่เขาขายก๋วยเตี๋ยวด้วยตัวเองนั้น เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในร้าน เขาจะไม่มองข้ามเด็ดขาด อย่างผ้าขี้ริ้วที่ใช้เช็ดโต๊ะ ทำความสะอาดตู้ เขียงที่ใช้หั่นหมูหั่นผัก เขาจะดูแลมันให้สะอาดมากที่สุด
เพราะเขาเชื่อว่า เมื่อลูกค้าเห็นผ้าขี้ริ้วและเขียงที่ใช้ในร้าน หลายคนต้องคิดเหมือนกันว่า “ถ้าขนาดผ้าขี้ริ้วและเขียงยังสะอาดขนาดนี้ แล้วอาหารที่ทำจะสะอาดขนาดไหน ดังนั้น ถ้าลูกค้ามาที่ร้าน พวกเขาจะสามารถทานบะหมี่ได้อย่างสบายใจ”
ธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวของเขาถือว่าไปได้ดี เพราะในเวลาเพียงแค่ 2 ปี คุณพันธ์รบมีเงินเก็บกว่า 600,000-700,000 บาท
เขานำเงินก้อนนี้ไปต่อยอดธุรกิจ ด้วยการเริ่มผลิตเส้นบะหมี่เพื่อขายเองในร้าน
ซึ่งจุดนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เขาสามารถลดต้นทุนวัตถุดิบ แต่ยังสามารถควบคุมคุณภาพของเส้นก๋วยเตี๋ยวได้อีกด้วย
และในเวลานี้เอง ที่เขาได้ตั้งชื่อร้านของเขาว่า “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2537
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ก็เติบโตเรื่อยมาพร้อมจำนวนสาขาที่มากขึ้น
ปี 2537 จำนวนสาขา 1 แห่ง
ปี 2541 จำนวนสาขา 200 แห่ง
ปี 2555 จำนวนสาขา 2,000 แห่ง
ปี 2563 จำนวนสาขา 4,500 แห่ง
จำนวนสาขาที่มากขึ้นนั้น มีทั้งที่เป็นของบริษัทของเขาขยายสาขาเอง และสาขาแฟรนไชส์
มาวันนี้ นอกจากจะขายบะหมี่แล้ว แบรนด์ของชายสี่บะหมี่เกี๊ยวยังมีสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย
เช่น พันปีหมี่เป็ดย่าง ก๋วยเตี๋ยวไก่ ข้าวมันไก่ ชายสี่โจ๊ก ต้มเลือดหมู บะหมี่ฮาลาล (อาหารมุสลิม) และรวมไปถึง ชานมไข่มุก อีกด้วย
ปัจจุบัน ตลาดของสตรีตฟูดในไทยนั้นถือว่าใหญ่มาก โดยมีมูลค่ากว่า 340,000 ล้านบาท
ซึ่งชายสี่บะหมี่เกี๊ยว นับเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารที่มีสาขามากที่สุดแบรนด์หนึ่งในธุรกิจสตรีตฟูดในประเทศไทย
ที่สำคัญคือ ปัจจุบันชายสี่บะหมี่เกี๊ยวของคุณพันธ์รบ ไม่ได้มีขายเพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังขยายธุรกิจไปเปิดสาขาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา เมียนมา ให้คนที่นั่นได้ลิ้มลองรสชาติด้วย
รายได้และกำไรของบริษัท ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จำกัด
ปี 2561 รายได้ 836 ล้านบาท กำไร 25 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 1,045 ล้านบาท กำไร 41 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 907 ล้านบาท กำไร 50 ล้านบาท
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณพันธ์รบเปรย ๆ เอาไว้อย่างน่าสนใจก็คือ
ความมุ่งมั่นในการเอาชายสี่บะหมี่เกี๊ยว เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนไปขยายธุรกิจ
ซึ่งก็น่าติดตามว่า ถ้าวันหนึ่งหุ้นของชายสี่บะหมี่เกี๊ยว เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว จะเป็นอย่างไร และบริษัทจะเติบโตไปอีกมากน้อยแค่ไหน
ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่า จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ
วันนี้ได้ขยับขยายจนกลายมาเป็น
อาณาจักร “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ที่ทำรายได้แตะหลัก พันล้าน ได้สำเร็จแล้ว..
References:
-https://www.chaixi.co.th/about-us.html
-https://www.thebangkokinsight.com/news/ceo-insight/88879/
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/931754
-https://www.youtube.com/watch?v=hxIpLxiV_-k
-https://www.sentangsedtee.com/exclusive/article_34831
-http://natres.psu.ac.th/board/view.php?q_id=664
-https://www.nectec.or.th/schoolnet/library/create-web/10000/generality/10000-12419.html
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/896997
ถ้าถามว่า ร้านสตรีตฟูดที่มีสาขาจำนวนมากที่สุด แห่งหนึ่งในประเทศไทย คือร้านไหน ? หลายคนน่าจะนึกถึง ร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว
รู้ไหมว่าวันนี้ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว มีอยู่กว่า 4,500 สาขา
เส้นทางของชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
ร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นรายนี้ มีรายได้เท่าไร วันนี้เราจะไปหาคำตอบกัน..
จุดเริ่มต้นของร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยวเกิดมาจากคุณพันธ์รบ กำลา อดีตเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง ที่ฐานะทางครอบครัวไม่ได้ดีมากนัก จึงทำให้เขามีโอกาสเรียนหนังสือถึงแค่ชั้น ป.4 หลังจากนั้นต้องออกมาช่วยครอบครัวทำนา
แต่การทำนาก็จะต้องทำเป็นฤดูกาล ทำให้เมื่อไม่สามารถทำได้ตลอดทั้งปี ทำให้คุณพันธ์รบเริ่มมองหารายได้จากทางอื่น
และเริ่มมุ่งเข้าสู่เมืองที่มีโอกาสหารายได้ได้มากกว่า นั่นคือ กรุงเทพมหานคร
คุณพันธ์รบเข้ามาทำงานรับจ้างหลายอย่างในกรุงเทพมหานคร โดยเป็นตั้งแต่พนักงานรักษาความปลอดภัย เซลส์ขายนอต คนทำสวน ไปจนถึงพ่อค้าขายไอศกรีม
โดยเฉพาะอาชีพขายไอศกรีมนั้น เป็นงานที่เขาบอกว่า เขาได้เรียนรู้เทคนิคในการขายโดยที่เชื่อว่าไม่มีตำราเล่มไหนเคยสอนมาก่อน
ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า เวลาที่เขาขายไอศกรีมนั้น จะเริ่มจากวางแผน ควรต้องเข้าซอยไหน เพื่อประหยัดทั้งเวลาและพลังงานในการทำงานของเขา
ถ้าซอยไหนเด็กเยอะ เขาพยายามไปบ่อย ๆ เมื่อเจอซอยแล้ว ตอนเข้าจะพยายามเดินให้เร็ว สั่นกระดิ่งให้ดังให้เด็กได้ยิน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้เตรียมตัวไปขอเงินพ่อแม่
ส่วนขากลับจะพยายามเดินให้ช้า เพื่อรอให้เด็ก ๆ ไปเอาเงินมาซื้อ ถ้าพ่อแม่ทำท่าไม่อยากควักเงินเพื่อให้เขาไปก่อน เขาก็จะแกล้งทำเป็นรถเสียเพื่อรอเด็ก ๆ มาซื้อ
ด้วยกลยุทธ์ที่เขาเรียนรู้จากการสั่งสมประสบการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เขาสามารถทำยอดขายสูงสุดจากบรรดาคนขายไอศกรีมทั้งหมดของร้าน ถึงขนาดเจ้าของร้านบอกว่า เขานั้นเป็นนักขายไอศกรีมมือทองเลยทีเดียว
จากพ่อค้าขายไอศกรีม จุดหักเหของคุณพันธ์รบเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2535 เมื่อน้องชายชวนเขามาขายก๋วยเตี๋ยวแถวปทุมธานี
ช่วงแรกในการเป็นพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว เขาก็ประสบกับปัญหาบ้าง เนื่องจากไม่เคยทำอาชีพนี้มาก่อน แต่ด้วยความที่มีสายเลือดพ่อค้าอยู่ในตัว เขาก็มุ่งมั่นและค่อย ๆ ปรับปรุง พัฒนาการทำก๋วยเตี๋ยวของเขาจนทำให้ลูกค้าหลายคนเริ่มติดใจ
ไม่เพียงแต่การทำก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น เขาศึกษาเรื่องทำเลของร้าน การดูแลลูกค้า รวมไปถึงการใส่ใจในเรื่องความสะอาด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจร้านอาหาร
คุณพันธ์รบบอกว่า สมัยที่เขาขายก๋วยเตี๋ยวด้วยตัวเองนั้น เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในร้าน เขาจะไม่มองข้ามเด็ดขาด อย่างผ้าขี้ริ้วที่ใช้เช็ดโต๊ะ ทำความสะอาดตู้ เขียงที่ใช้หั่นหมูหั่นผัก เขาจะดูแลมันให้สะอาดมากที่สุด
เพราะเขาเชื่อว่า เมื่อลูกค้าเห็นผ้าขี้ริ้วและเขียงที่ใช้ในร้าน หลายคนต้องคิดเหมือนกันว่า “ถ้าขนาดผ้าขี้ริ้วและเขียงยังสะอาดขนาดนี้ แล้วอาหารที่ทำจะสะอาดขนาดไหน ดังนั้น ถ้าลูกค้ามาที่ร้าน พวกเขาจะสามารถทานบะหมี่ได้อย่างสบายใจ”
ธุรกิจขายก๋วยเตี๋ยวของเขาถือว่าไปได้ดี เพราะในเวลาเพียงแค่ 2 ปี คุณพันธ์รบมีเงินเก็บกว่า 600,000-700,000 บาท
เขานำเงินก้อนนี้ไปต่อยอดธุรกิจ ด้วยการเริ่มผลิตเส้นบะหมี่เพื่อขายเองในร้าน
ซึ่งจุดนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เขาสามารถลดต้นทุนวัตถุดิบ แต่ยังสามารถควบคุมคุณภาพของเส้นก๋วยเตี๋ยวได้อีกด้วย
และในเวลานี้เอง ที่เขาได้ตั้งชื่อร้านของเขาว่า “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2537
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ก็เติบโตเรื่อยมาพร้อมจำนวนสาขาที่มากขึ้น
ปี 2537 จำนวนสาขา 1 แห่ง
ปี 2541 จำนวนสาขา 200 แห่ง
ปี 2555 จำนวนสาขา 2,000 แห่ง
ปี 2563 จำนวนสาขา 4,500 แห่ง
จำนวนสาขาที่มากขึ้นนั้น มีทั้งที่เป็นของบริษัทของเขาขยายสาขาเอง และสาขาแฟรนไชส์
มาวันนี้ นอกจากจะขายบะหมี่แล้ว แบรนด์ของชายสี่บะหมี่เกี๊ยวยังมีสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย
เช่น พันปีหมี่เป็ดย่าง ก๋วยเตี๋ยวไก่ ข้าวมันไก่ ชายสี่โจ๊ก ต้มเลือดหมู บะหมี่ฮาลาล (อาหารมุสลิม) และรวมไปถึง ชานมไข่มุก อีกด้วย
ปัจจุบัน ตลาดของสตรีตฟูดในไทยนั้นถือว่าใหญ่มาก โดยมีมูลค่ากว่า 340,000 ล้านบาท
ซึ่งชายสี่บะหมี่เกี๊ยว นับเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารที่มีสาขามากที่สุดแบรนด์หนึ่งในธุรกิจสตรีตฟูดในประเทศไทย
ที่สำคัญคือ ปัจจุบันชายสี่บะหมี่เกี๊ยวของคุณพันธ์รบ ไม่ได้มีขายเพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังขยายธุรกิจไปเปิดสาขาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา เมียนมา ให้คนที่นั่นได้ลิ้มลองรสชาติด้วย
รายได้และกำไรของบริษัท ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จำกัด
ปี 2561 รายได้ 836 ล้านบาท กำไร 25 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 1,045 ล้านบาท กำไร 41 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 907 ล้านบาท กำไร 50 ล้านบาท
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณพันธ์รบเปรย ๆ เอาไว้อย่างน่าสนใจก็คือ
ความมุ่งมั่นในการเอาชายสี่บะหมี่เกี๊ยว เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนไปขยายธุรกิจ
ซึ่งก็น่าติดตามว่า ถ้าวันหนึ่งหุ้นของชายสี่บะหมี่เกี๊ยว เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว จะเป็นอย่างไร และบริษัทจะเติบโตไปอีกมากน้อยแค่ไหน
ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่า จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ
วันนี้ได้ขยับขยายจนกลายมาเป็น
อาณาจักร “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ที่ทำรายได้แตะหลัก พันล้าน ได้สำเร็จแล้ว..
References:
-https://www.chaixi.co.th/about-us.html
-https://www.thebangkokinsight.com/news/ceo-insight/88879/
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/931754
-https://www.youtube.com/watch?v=hxIpLxiV_-k
-https://www.sentangsedtee.com/exclusive/article_34831
-http://natres.psu.ac.th/board/view.php?q_id=664
-https://www.nectec.or.th/schoolnet/library/create-web/10000/generality/10000-12419.html
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/896997