ทำไม ผู้นำที่ดี ควรยอมรับใน สิ่งที่ตัวเองทำพลาด
6 ก.ค. 2021
ทำไม ผู้นำที่ดี ควรยอมรับใน สิ่งที่ตัวเองทำพลาด | THE BRIEFCASE
การเป็นผู้นำที่ดี ไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถที่โดดเด่น
หรือการที่เราตัดสินใจได้ถูกต้อง หรือไม่ทำผิดพลาดเลยสักครั้งเดียว
แต่หนึ่งสิ่งที่ทำให้เราเป็นผู้นำที่ดี คือ การยอมรับเมื่อตัวเองทำพลาด
โดยผลการสำรวจ จากพนักงาน 3,100 คนใน 13 ประเทศเปิดเผยว่า
สิ่งที่สำคัญต่อพนักงาน คือ การที่ผู้นำของพวกเขากล้าออกมายอมรับเมื่อตัวเองทำผิดพลาด
ซึ่งพนักงานกว่า 81% มองว่า การที่ผู้นำต้องยอมรับความผิดพลาดของตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
และมีเพียง 41% เท่านั้นที่รู้สึกว่าหัวหน้าของพวกเขาออกมายอมรับผิดอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้นักวิจัยยังพบอีกว่า ผู้นำที่เต็มใจยอมรับเมื่อทำผิด
เป็นหนึ่งในสิ่งที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อความพึงพอใจของพนักงาน
ทำให้พนักงานมีความตั้งใจที่จะทำงานต่อไป
มากไปกว่านั้น การที่เราไม่ยอมรับในข้อผิดพลาดที่ได้ก่อขึ้น
กลับเป็นการสร้างจุดอ่อนให้กับตัวเอง และอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมาในอนาคต
โดยนิตยสาร Psychology Today ชี้ให้เห็นว่า
บางครั้งเราก็ออกมารับผิดต่อข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งหมด และบางครั้งเราก็รับผิดเพียงบางส่วนเท่านั้น
แต่ไม่ว่าเราจะออกมารับผิดแบบไหน นั่นก็แตกต่างจากการที่เราต่อต้านหรือไม่ยอมรับความผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้น
Dr. Guy Winch นักจิตวิทยาชื่อดังได้กล่าวว่า คนบางคนนั้นมีอีโกที่สูงมาก
ซึ่งการที่พวกเขาจะยอมรับว่าตนเองทำผิดพลาดหรือคิดผิด เป็นเหมือนกับการถูกคุกคาม เกินกว่าที่อีโกหรือความเชื่อมั่นในตัวเองของพวกเขาจะทนได้
และการยอมรับว่าตัวเองนั้นคิดผิดแล้วยอมรับความเป็นจริงนั้น จะทำลายจิตใจของพวกเขาอย่างมาก
จนพวกเขาพัฒนากลไกการป้องกันตัวขึ้นมา คือ พวกเขาทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อ “หลีกเลี่ยง” การยอมรับผิด
เช่น การบิดเบือนการรับรู้ความเป็นจริงเพื่อให้รู้สึกถูกคุกคามน้อยลง
กลไกการป้องกันตัวนี้ จะเป็นสิ่งที่ปกป้องความเชื่อมั่นที่สูงนั้นของพวกเขา ด้วยการเปลี่ยนข้อเท็จจริงในใจ ให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร
นอกจากนี้ Dr. Winch ยังชี้ให้เห็นอีกว่า คนที่มีอีโกสูงดูเหมือนเป็นคนที่เข้มแข็งและยืนหยัด แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่เลย คนเหล่านี้ไม่ได้เลือกที่จะยืนหยัด แต่พวกเขาทำเช่นนั้น เพื่อปกป้องเซตความเชื่อของพวกเขาต่างหาก
เพราะการออกมายอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง ต้องใช้ความแข็งแกร่งและความกล้าหาญทางอารมณ์
ในการจัดการกับความเป็นจริงและยอมรับความผิดพลาดของเรา
ซึ่งหากเราไม่สามารถยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแล้วหันไปตำหนิอย่างอื่น เบี่ยงเบนหรือเปลี่ยนเรื่อง
การกระทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นผู้นำ
แล้วยังสะท้อนถึงการขาดความตระหนักในคุณค่าของการเติบโตและเรียนรู้ในอนาคตอีกด้วย
ผู้นำหรือ CEO ของบริษัทใหญ่ระดับโลกหลาย ๆ คน ต่างก็ออกมายอมรับว่า
พวกเขาก็เคยทำผิดพลาดมากมายตลอดทาง
และความผิดพลาดเหล่านั้นก็ได้สอนบทเรียนอันล้ำค่าแก่พวกเขา
ตัวอย่างเช่น ในช่วงต้นปี 2020 Eric Yuan ซีอีโอของ Zoom ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชน
สำหรับการรักษาความปลอดภัยที่ต่ำของเครื่องมือบนแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ของเขา
โดยเขายืนยันอย่างรวดเร็วว่าบริษัทกำลังเร่งแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น
สิ่งที่ Eric Yuan ทำคือ การยอมรับว่าความผิดพลาดเหล่านั้นเป็นของตนเอง และการแสดงให้เห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา
ถึงแม้ว่า คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้ให้ความสนใจกับการออกมายอมรับผิด มากเท่าการรู้ว่าคุณกำลังแก้ไขปัญหาของพวกเขาอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม การที่ Eric Yuan ออกมายอมรับผิดและแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้นิ่งนอนใจกับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เขาช่วยเสริมความเชื่อมั่นและทำให้ Zoom ฟื้นคืนกลับมาในที่สุด
นอกจากนี้ Jim Whitehurst อดีต CEO ของ Red Hat และประธานของบริษัท IBM
ยังได้ออกมาแสดงความเห็นว่า การเป็นผู้นำไม่ได้หมายความว่าคุณต้องถูกเสมอหรือว่าคุณจะไม่ทำผิดพลาด
และการออกมายอมรับและรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ทำให้เกิดความรู้สึกไว้วางใจและได้รับความเคารพ
ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับ Chris McCloskey จาก Dale Carnegie Training
ที่ได้กล่าวว่า “โดยปกติแล้ว เมื่อผู้นำตระหนักว่าพวกเขาทำผิดพลาด คนอื่นก็สังเกตเห็นเช่นกัน
ผู้นำที่ไม่ยอมรับว่าตนทำผิด จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าผู้นำของพวกเขาเห็นความถูกต้องสำคัญกว่าการเป็นคนซื่อสัตย์
และเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็อาจทำให้เกิดหายนะตามมาได้
เพราะถ้าพนักงานเกิดทำสิ่งที่ผิดพลาดขึ้นมา พนักงานอาจเลือกที่จะโกหกปิดบังข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น พยายามปกปิดความผิดพลาดนั้น ด้วยการโกหกว่าทุกอย่างถูกต้อง ทุกอย่างเรียบร้อยดี
สุดท้ายปัญหาเหล่านั้นก็จะไม่ได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้การที่เรายอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ยังเป็นหนทางไปสู่การเปิดใจเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้
สิ่งนี้สามารถสร้างความมั่นใจในการเป็นผู้นำ รวมไปถึงเป็นการสร้างวัฒนธรรมที่พนักงานสามารถรู้สึกปลอดภัยที่จะกล้าเสี่ยงในการลงมือทำสิ่งใหม่ ๆ และกล้าออกมายอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายนี้ การที่เราทำผิดพลาด ไม่ได้แปลว่าเราล้มเหลวไม่เป็นท่าเสมอไป
แต่ถ้ามองอีกมุม ความผิดพลาด ก็ถือเป็นภาพสะท้อนของการกล้าเสี่ยงลงมือทำในสิ่งใหม่ ๆ แต่ได้ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นตามที่เราหวังก็เท่านั้นเอง
สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเราต้องเจอกับความผิดพลาดก็คือ
ลองกล้ายืดอก ออกมายอมรับความผิดนั้น
แล้วเรียนรู้ แก้ไข และพยายาม ไม่ทำผิดแบบเดิมซ้ำ ๆ
เพื่อให้เราในฐานะผู้นำ แข็งแกร่งขึ้นและเก่งขึ้นกว่าวันนี้ ที่ทำพลาดไป..
References
-https://hbr.org/2015/06/be-a-leader-who-can-admit-mistakes
-https://theglasshammer.com/2020/02/why-owning-a-mistake-is-a-mark-of-leadership/
-https://www.inc.com/jeff-steen/why-as-ceo-you-need-to-make-your-apologies-personal.html
การเป็นผู้นำที่ดี ไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถที่โดดเด่น
หรือการที่เราตัดสินใจได้ถูกต้อง หรือไม่ทำผิดพลาดเลยสักครั้งเดียว
แต่หนึ่งสิ่งที่ทำให้เราเป็นผู้นำที่ดี คือ การยอมรับเมื่อตัวเองทำพลาด
โดยผลการสำรวจ จากพนักงาน 3,100 คนใน 13 ประเทศเปิดเผยว่า
สิ่งที่สำคัญต่อพนักงาน คือ การที่ผู้นำของพวกเขากล้าออกมายอมรับเมื่อตัวเองทำผิดพลาด
ซึ่งพนักงานกว่า 81% มองว่า การที่ผู้นำต้องยอมรับความผิดพลาดของตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
และมีเพียง 41% เท่านั้นที่รู้สึกว่าหัวหน้าของพวกเขาออกมายอมรับผิดอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้นักวิจัยยังพบอีกว่า ผู้นำที่เต็มใจยอมรับเมื่อทำผิด
เป็นหนึ่งในสิ่งที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อความพึงพอใจของพนักงาน
ทำให้พนักงานมีความตั้งใจที่จะทำงานต่อไป
มากไปกว่านั้น การที่เราไม่ยอมรับในข้อผิดพลาดที่ได้ก่อขึ้น
กลับเป็นการสร้างจุดอ่อนให้กับตัวเอง และอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมาในอนาคต
โดยนิตยสาร Psychology Today ชี้ให้เห็นว่า
บางครั้งเราก็ออกมารับผิดต่อข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งหมด และบางครั้งเราก็รับผิดเพียงบางส่วนเท่านั้น
แต่ไม่ว่าเราจะออกมารับผิดแบบไหน นั่นก็แตกต่างจากการที่เราต่อต้านหรือไม่ยอมรับความผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้น
Dr. Guy Winch นักจิตวิทยาชื่อดังได้กล่าวว่า คนบางคนนั้นมีอีโกที่สูงมาก
ซึ่งการที่พวกเขาจะยอมรับว่าตนเองทำผิดพลาดหรือคิดผิด เป็นเหมือนกับการถูกคุกคาม เกินกว่าที่อีโกหรือความเชื่อมั่นในตัวเองของพวกเขาจะทนได้
และการยอมรับว่าตัวเองนั้นคิดผิดแล้วยอมรับความเป็นจริงนั้น จะทำลายจิตใจของพวกเขาอย่างมาก
จนพวกเขาพัฒนากลไกการป้องกันตัวขึ้นมา คือ พวกเขาทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อ “หลีกเลี่ยง” การยอมรับผิด
เช่น การบิดเบือนการรับรู้ความเป็นจริงเพื่อให้รู้สึกถูกคุกคามน้อยลง
กลไกการป้องกันตัวนี้ จะเป็นสิ่งที่ปกป้องความเชื่อมั่นที่สูงนั้นของพวกเขา ด้วยการเปลี่ยนข้อเท็จจริงในใจ ให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร
นอกจากนี้ Dr. Winch ยังชี้ให้เห็นอีกว่า คนที่มีอีโกสูงดูเหมือนเป็นคนที่เข้มแข็งและยืนหยัด แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่เลย คนเหล่านี้ไม่ได้เลือกที่จะยืนหยัด แต่พวกเขาทำเช่นนั้น เพื่อปกป้องเซตความเชื่อของพวกเขาต่างหาก
เพราะการออกมายอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง ต้องใช้ความแข็งแกร่งและความกล้าหาญทางอารมณ์
ในการจัดการกับความเป็นจริงและยอมรับความผิดพลาดของเรา
ซึ่งหากเราไม่สามารถยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแล้วหันไปตำหนิอย่างอื่น เบี่ยงเบนหรือเปลี่ยนเรื่อง
การกระทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นผู้นำ
แล้วยังสะท้อนถึงการขาดความตระหนักในคุณค่าของการเติบโตและเรียนรู้ในอนาคตอีกด้วย
ผู้นำหรือ CEO ของบริษัทใหญ่ระดับโลกหลาย ๆ คน ต่างก็ออกมายอมรับว่า
พวกเขาก็เคยทำผิดพลาดมากมายตลอดทาง
และความผิดพลาดเหล่านั้นก็ได้สอนบทเรียนอันล้ำค่าแก่พวกเขา
ตัวอย่างเช่น ในช่วงต้นปี 2020 Eric Yuan ซีอีโอของ Zoom ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณชน
สำหรับการรักษาความปลอดภัยที่ต่ำของเครื่องมือบนแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ของเขา
โดยเขายืนยันอย่างรวดเร็วว่าบริษัทกำลังเร่งแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น
สิ่งที่ Eric Yuan ทำคือ การยอมรับว่าความผิดพลาดเหล่านั้นเป็นของตนเอง และการแสดงให้เห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา
ถึงแม้ว่า คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้ให้ความสนใจกับการออกมายอมรับผิด มากเท่าการรู้ว่าคุณกำลังแก้ไขปัญหาของพวกเขาอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม การที่ Eric Yuan ออกมายอมรับผิดและแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้นิ่งนอนใจกับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เขาช่วยเสริมความเชื่อมั่นและทำให้ Zoom ฟื้นคืนกลับมาในที่สุด
นอกจากนี้ Jim Whitehurst อดีต CEO ของ Red Hat และประธานของบริษัท IBM
ยังได้ออกมาแสดงความเห็นว่า การเป็นผู้นำไม่ได้หมายความว่าคุณต้องถูกเสมอหรือว่าคุณจะไม่ทำผิดพลาด
และการออกมายอมรับและรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ทำให้เกิดความรู้สึกไว้วางใจและได้รับความเคารพ
ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับ Chris McCloskey จาก Dale Carnegie Training
ที่ได้กล่าวว่า “โดยปกติแล้ว เมื่อผู้นำตระหนักว่าพวกเขาทำผิดพลาด คนอื่นก็สังเกตเห็นเช่นกัน
ผู้นำที่ไม่ยอมรับว่าตนทำผิด จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าผู้นำของพวกเขาเห็นความถูกต้องสำคัญกว่าการเป็นคนซื่อสัตย์
และเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็อาจทำให้เกิดหายนะตามมาได้
เพราะถ้าพนักงานเกิดทำสิ่งที่ผิดพลาดขึ้นมา พนักงานอาจเลือกที่จะโกหกปิดบังข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น พยายามปกปิดความผิดพลาดนั้น ด้วยการโกหกว่าทุกอย่างถูกต้อง ทุกอย่างเรียบร้อยดี
สุดท้ายปัญหาเหล่านั้นก็จะไม่ได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้การที่เรายอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ยังเป็นหนทางไปสู่การเปิดใจเรียนรู้จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้
สิ่งนี้สามารถสร้างความมั่นใจในการเป็นผู้นำ รวมไปถึงเป็นการสร้างวัฒนธรรมที่พนักงานสามารถรู้สึกปลอดภัยที่จะกล้าเสี่ยงในการลงมือทำสิ่งใหม่ ๆ และกล้าออกมายอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายนี้ การที่เราทำผิดพลาด ไม่ได้แปลว่าเราล้มเหลวไม่เป็นท่าเสมอไป
แต่ถ้ามองอีกมุม ความผิดพลาด ก็ถือเป็นภาพสะท้อนของการกล้าเสี่ยงลงมือทำในสิ่งใหม่ ๆ แต่ได้ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นตามที่เราหวังก็เท่านั้นเอง
สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเราต้องเจอกับความผิดพลาดก็คือ
ลองกล้ายืดอก ออกมายอมรับความผิดนั้น
แล้วเรียนรู้ แก้ไข และพยายาม ไม่ทำผิดแบบเดิมซ้ำ ๆ
เพื่อให้เราในฐานะผู้นำ แข็งแกร่งขึ้นและเก่งขึ้นกว่าวันนี้ ที่ทำพลาดไป..
References
-https://hbr.org/2015/06/be-a-leader-who-can-admit-mistakes
-https://theglasshammer.com/2020/02/why-owning-a-mistake-is-a-mark-of-leadership/
-https://www.inc.com/jeff-steen/why-as-ceo-you-need-to-make-your-apologies-personal.html