เคล็ดลับกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ของบุคคลเปลี่ยนโลก
4 มิ.ย. 2021
เคล็ดลับกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ของบุคคลเปลี่ยนโลก | THE BRIEFCASE
หลายคนน่าจะเคยเจอเหตุการณ์ที่ว่า
ยิ่งพยายามคิดงานเท่าไรก็ยิ่งคิดไม่ออก
หรือยิ่งพยายามหาไอเดียใหม่ ๆ กลับได้แต่ไอเดียเดิม ๆ
แต่พอได้ปลีกตัวออกไปนั่งจิบกาแฟ ขับรถ หรือออกไปเดินเล่น ก็มักจะมีไอเดียเจ๋ง ๆ ผุดขึ้นมา
ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์
และยังเป็นเคล็ดลับของบุคคลอัจฉริยะ ผู้บุกเบิกแนวคิดเปลี่ยนโลก
ไม่ว่าจะเป็น Steve Jobs, Albert Einstein และ Charles Darwin
แล้วเคล็ดลับที่ว่านี้คืออะไร THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
ตารางชีวิตแบบที่ถูกจัดสรรอย่างมีระบบ กำหนดเวลาแน่นอนว่าตอนไหนจะทำอะไร
ทำให้เวลาในแต่ละนาทีถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลงานที่มีคุณภาพ
แม้วิถีชีวิตแบบนี้ จะได้รับการพิสูจน์มาแล้ว ว่าสามารถทำให้หลายคนประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่การใช้ชีวิตที่ตารางอัดแน่นจนไม่มีเวลาพักหายใจ อาจทำให้มีสิ่งหนึ่งขาดหายไปได้
นั่นก็คือ “ความคิดสร้างสรรค์”
เพราะเมื่อเรารู้สึกกดดัน และต้องทำอะไรอย่างเร่งรีบ จะทำให้เครียด ไม่มีความสุข จนทำให้สมองหันไปโฟกัสแต่สิ่งที่เป็นรายละเอียด ปิดกั้นการมองในมุมที่กว้างขึ้น และกลายเป็นการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ในที่สุด
โดยงานศึกษาด้านประสาทวิทยาศาสตร์ได้อธิบายว่า เมื่อมนุษย์ได้รับโจทย์ที่ต้องคิดแบบยืดหยุ่น ไม่มีคำตอบตายตัว สมองซีกซ้าย ซึ่งเป็นส่วนของการคิดวิเคราะห์ จะเริ่มทำงานเพื่อคิดหาคำตอบก่อน
แต่ถ้ายังคิดแก้ปัญหาไม่ได้ สมองซีกขวา ที่เป็นส่วนของความคิดสร้างสรรค์ จะทำหน้าที่หาคำตอบแทน ซึ่งมักจะทำให้เกิดเป็นไอเดียที่แปลกแหวกแนวกว่า
หรือพูดง่าย ๆ ว่า สมองของเราจะผุดไอเดียแบบสร้างสรรค์ได้ดีที่สุด ตอนที่เราไม่ได้ใช้ความคิดนั่นเอง
ซึ่งไอเดียเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความบังเอิญ เพราะในความเป็นจริง สมองเราทำงานตลอดเวลา ทั้งตอนที่เรากำลังใช้ความคิด หรือตอนที่ใจลอย ไม่ได้คิดอะไรก็ตาม
เพียงแต่ความคิดสร้างสรรค์ จะเกิดขึ้นได้ดีในช่วงที่สมองผ่อนคลาย หรือก็คือช่วงเวลาที่อยู่คนเดียว เงียบสงบ ตัดขาดจากความวุ่นวายยุ่งเหยิง โดยคุณ Steven Kotler นักเขียนชาวอเมริกัน ได้ตั้งชื่อช่วงเวลานั้นว่า “Non-time”
แม้ว่างานศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ หรือชื่อเรียกเฉพาะอย่าง Non-time จะเพิ่งมีมาได้ไม่นาน แต่เรื่องนี้กลับเป็นเคล็ดลับที่อยู่เบื้องหลังผู้บุกเบิกแนวคิดเปลี่ยนโลกมานานแล้ว ยกตัวอย่างเช่น
Charles Darwin นักธรรมชาติวิทยา ผู้ค้นพบทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
เคยบอกว่า ไอเดียแปลกใหม่ มักเกิดขึ้นตอนที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยระหว่างออกไปเดินเล่น
Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล ผู้คิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพ
เคยบอกว่า ไอเดียเจ๋ง ๆ ส่วนมาก มักแวบเข้ามา ตอนไม่ได้คิดอะไร และนั่งอยู่เฉย ๆ
Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple ที่ผลิตสินค้าด้วยนวัตกรรมเปลี่ยนโลก
เคยบอกว่า ไอเดียสุดแปลกแหวกแนวของเขา เกิดขึ้นตอนที่เขาปล่อยเวลาผ่านไปแบบเรื่อยเปื่อย โดยไม่ได้ทำอะไร และเขายังขึ้นชื่อเรื่องความขี้เกียจ และการผัดวันประกันพรุ่งอีกด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีเหล่า CEO อย่างเช่น Mark Zuckerberg จาก Facebook และ Sundar Pichai จาก Google ที่ชอบตัดสินใจเรื่องยาก ๆ ในช่วงเวลาที่กำลังเดินคนเดียว
จะเห็นได้ว่า เหล่าผู้บุกเบิก ผู้ค้นพบ หรือผู้คิดค้นสิ่งใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกนี้มาก่อน รวมถึงผู้บริหารบริษัทชั้นนำระดับโลกในปัจจุบัน ต่างก็มี Non-time เป็นของตัวเอง ไม่ว่าตารางเวลาจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม
แน่นอนว่าทุกคนที่ประสบความสำเร็จ เกิดจากการลงมือทำ ที่ต้องมุ่งมั่นตั้งใจ และใช้เวลา
แต่ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการมีไอเดียที่เจ๋งพอ ก็เป็นจุดตั้งต้นสำคัญ ที่จะชี้นำความสำเร็จของสิ่งที่ลงมือทำได้
หากใครต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่คิดงานไม่ออก หมดไอเดีย ก็อาจลองใช้วิธีแทรกช่วง Non-time เข้าไปในตารางชีวิตที่แน่นเอี๊ยดดู
ซึ่งก็ไม่แน่ว่า นอกจากจะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์แล้ว เราอาจจะปิ๊งไอเดียสุดล้ำ ที่มันสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราหลังจากนี้ไปเลย ก็เป็นได้..
References
-https://ideas.ted.com/3-science-based-strategies-to-increase-your-creativity/
-https://www.businessinsider.com/darwin-science-great-famous-remote-work-time-think-schedule-busy-2021-3
-https://www.inc.com/jessica-stillman/steve-jobs-albert-einstein-steven-kotler-non-time.html
หลายคนน่าจะเคยเจอเหตุการณ์ที่ว่า
ยิ่งพยายามคิดงานเท่าไรก็ยิ่งคิดไม่ออก
หรือยิ่งพยายามหาไอเดียใหม่ ๆ กลับได้แต่ไอเดียเดิม ๆ
แต่พอได้ปลีกตัวออกไปนั่งจิบกาแฟ ขับรถ หรือออกไปเดินเล่น ก็มักจะมีไอเดียเจ๋ง ๆ ผุดขึ้นมา
ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์
และยังเป็นเคล็ดลับของบุคคลอัจฉริยะ ผู้บุกเบิกแนวคิดเปลี่ยนโลก
ไม่ว่าจะเป็น Steve Jobs, Albert Einstein และ Charles Darwin
แล้วเคล็ดลับที่ว่านี้คืออะไร THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
ตารางชีวิตแบบที่ถูกจัดสรรอย่างมีระบบ กำหนดเวลาแน่นอนว่าตอนไหนจะทำอะไร
ทำให้เวลาในแต่ละนาทีถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ผลงานที่มีคุณภาพ
แม้วิถีชีวิตแบบนี้ จะได้รับการพิสูจน์มาแล้ว ว่าสามารถทำให้หลายคนประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่การใช้ชีวิตที่ตารางอัดแน่นจนไม่มีเวลาพักหายใจ อาจทำให้มีสิ่งหนึ่งขาดหายไปได้
นั่นก็คือ “ความคิดสร้างสรรค์”
เพราะเมื่อเรารู้สึกกดดัน และต้องทำอะไรอย่างเร่งรีบ จะทำให้เครียด ไม่มีความสุข จนทำให้สมองหันไปโฟกัสแต่สิ่งที่เป็นรายละเอียด ปิดกั้นการมองในมุมที่กว้างขึ้น และกลายเป็นการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ในที่สุด
โดยงานศึกษาด้านประสาทวิทยาศาสตร์ได้อธิบายว่า เมื่อมนุษย์ได้รับโจทย์ที่ต้องคิดแบบยืดหยุ่น ไม่มีคำตอบตายตัว สมองซีกซ้าย ซึ่งเป็นส่วนของการคิดวิเคราะห์ จะเริ่มทำงานเพื่อคิดหาคำตอบก่อน
แต่ถ้ายังคิดแก้ปัญหาไม่ได้ สมองซีกขวา ที่เป็นส่วนของความคิดสร้างสรรค์ จะทำหน้าที่หาคำตอบแทน ซึ่งมักจะทำให้เกิดเป็นไอเดียที่แปลกแหวกแนวกว่า
หรือพูดง่าย ๆ ว่า สมองของเราจะผุดไอเดียแบบสร้างสรรค์ได้ดีที่สุด ตอนที่เราไม่ได้ใช้ความคิดนั่นเอง
ซึ่งไอเดียเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความบังเอิญ เพราะในความเป็นจริง สมองเราทำงานตลอดเวลา ทั้งตอนที่เรากำลังใช้ความคิด หรือตอนที่ใจลอย ไม่ได้คิดอะไรก็ตาม
เพียงแต่ความคิดสร้างสรรค์ จะเกิดขึ้นได้ดีในช่วงที่สมองผ่อนคลาย หรือก็คือช่วงเวลาที่อยู่คนเดียว เงียบสงบ ตัดขาดจากความวุ่นวายยุ่งเหยิง โดยคุณ Steven Kotler นักเขียนชาวอเมริกัน ได้ตั้งชื่อช่วงเวลานั้นว่า “Non-time”
แม้ว่างานศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ หรือชื่อเรียกเฉพาะอย่าง Non-time จะเพิ่งมีมาได้ไม่นาน แต่เรื่องนี้กลับเป็นเคล็ดลับที่อยู่เบื้องหลังผู้บุกเบิกแนวคิดเปลี่ยนโลกมานานแล้ว ยกตัวอย่างเช่น
Charles Darwin นักธรรมชาติวิทยา ผู้ค้นพบทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
เคยบอกว่า ไอเดียแปลกใหม่ มักเกิดขึ้นตอนที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยระหว่างออกไปเดินเล่น
Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล ผู้คิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพ
เคยบอกว่า ไอเดียเจ๋ง ๆ ส่วนมาก มักแวบเข้ามา ตอนไม่ได้คิดอะไร และนั่งอยู่เฉย ๆ
Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple ที่ผลิตสินค้าด้วยนวัตกรรมเปลี่ยนโลก
เคยบอกว่า ไอเดียสุดแปลกแหวกแนวของเขา เกิดขึ้นตอนที่เขาปล่อยเวลาผ่านไปแบบเรื่อยเปื่อย โดยไม่ได้ทำอะไร และเขายังขึ้นชื่อเรื่องความขี้เกียจ และการผัดวันประกันพรุ่งอีกด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีเหล่า CEO อย่างเช่น Mark Zuckerberg จาก Facebook และ Sundar Pichai จาก Google ที่ชอบตัดสินใจเรื่องยาก ๆ ในช่วงเวลาที่กำลังเดินคนเดียว
จะเห็นได้ว่า เหล่าผู้บุกเบิก ผู้ค้นพบ หรือผู้คิดค้นสิ่งใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกนี้มาก่อน รวมถึงผู้บริหารบริษัทชั้นนำระดับโลกในปัจจุบัน ต่างก็มี Non-time เป็นของตัวเอง ไม่ว่าตารางเวลาจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม
แน่นอนว่าทุกคนที่ประสบความสำเร็จ เกิดจากการลงมือทำ ที่ต้องมุ่งมั่นตั้งใจ และใช้เวลา
แต่ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการมีไอเดียที่เจ๋งพอ ก็เป็นจุดตั้งต้นสำคัญ ที่จะชี้นำความสำเร็จของสิ่งที่ลงมือทำได้
หากใครต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่คิดงานไม่ออก หมดไอเดีย ก็อาจลองใช้วิธีแทรกช่วง Non-time เข้าไปในตารางชีวิตที่แน่นเอี๊ยดดู
ซึ่งก็ไม่แน่ว่า นอกจากจะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์แล้ว เราอาจจะปิ๊งไอเดียสุดล้ำ ที่มันสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราหลังจากนี้ไปเลย ก็เป็นได้..
References
-https://ideas.ted.com/3-science-based-strategies-to-increase-your-creativity/
-https://www.businessinsider.com/darwin-science-great-famous-remote-work-time-think-schedule-busy-2021-3
-https://www.inc.com/jessica-stillman/steve-jobs-albert-einstein-steven-kotler-non-time.html