สรุป Key Takeout การสื่อสาร แสนสิริเลือกใช้ “ละครคุณธรรม” ยอดวิวทะลุ 40 ล้าน

ในโลกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การสร้างความแตกต่างและเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะการตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังถือเป็นการลงทุนครั้งสำคัญในชีวิต 

แสนสิริ ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ที่ไม่ได้ขายแค่บ้านสวยงาม แต่ยังมีแนวคิดที่จะมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีในทุกมิติ และแม้ว่าบริการหลังการขายของแสนสิริจะเป็นที่ยอมรับในหลายแง่มุมแต่ก็มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่อาจยังไม่เคย “เห็นภาพใหญ่” ว่าบริการหลังการขายต่าง ๆ ถูกดีไซน์ออกมาครอบคลุมและตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างไร

จึงได้ฉีกกรอบการโฆษณาที่จำเจแบบเดิม ๆ ด้วยการใช้ “ละครคุณธรรม” เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร เรื่องที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่าง “บริการหลังการขาย” (After-Sales Service) ให้ออกมาเป็นอะไรที่สร้างสรรค์และน่าติดตาม 

ยิ่งไปกว่านั้น การสื่อสารด้วยวิธีการนี้ ยังประสบความสำเร็จแบบเหนือความคาดหมาย ในแง่ของการสร้างการรับรู้ (Awareness) ให้กับแบรนด์อีกด้วย วัดผลได้จากยอดวิว, Engagement และการถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก

เรื่องราวนี้มี Key Takeout อะไรที่น่าสนใจบ้าง ? BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

ก่อนอื่นเรามาดูที่มาที่ไปของการครีเอตไอเดียแคมเปญนี้กันก่อน

เรื่องมีอยู่ว่า แสนสิริต้องการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับบริการหลังการขาย (After-Sales Service) ซึ่งเป็นสิ่งที่แสนสิริ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และลูกค้าอาจยังไม่เห็นภาพชัดเจน 

โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยเป็นลูกบ้านของแสนสิริ หรือแม้แต่ลูกบ้านปัจจุบันที่อาจยังไม่ทราบถึงรายละเอียดของบริการต่าง ๆ เหล่านั้นว่ามีอะไรบ้าง และบางอย่างถูกออกแบบ ด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ลูกบ้านใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายที่สุด

อย่างไรก็ตาม การจะสื่อสารเรื่องนี้แบบตรง ๆ อาจดูแข็งกระด้างและไม่น่าสนใจ ดังนั้น แสนสิริจึงเลือกที่จะ “Blend-in” เนื้อหาที่ต้องการสื่อสารเข้าไปในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย สนุกสนาน และเป็นที่นิยมอย่าง “ละครคุณธรรม”

โดยแสนสิริได้แนวคิดนี้มาจาก การศึกษา Customer Behavior & Media Consumption อย่างลึกซึ้ง ซึ่งพบว่าผู้บริโภคจำนวนมากยังคงให้ความสนใจกับคอนเทนต์ประเภทละคร โดยเฉพาะละครที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย สอดแทรกคติสอนใจ และมีความเป็นไทย 

แสนสิริจึงเลือก Partner อย่างเพจ “ดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์” ซึ่งมีฐานผู้ติดตามบน Social Network กว่า  20 ล้านบัญชี และมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนในการนำเสนอคอนเทนต์รูปแบบนี้ 

ความท้าทายต่อมาคือ จะทำอย่างไรที่จะ “ขาย” เนื้อหา บริการหลังการขายของแสนสิริ โดยไม่ดูเป็นการยัดเยียดจนเกินไป 

แสนสิริจึงเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง หรือเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันของลูกบ้าน โดยสอดแทรกบริการต่าง ๆ ของแสนสิริเข้าไปอย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านสถานการณ์และตัวละครที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศของบ้านที่สวยงาม กว้างขวาง และส่วนกลางที่ได้รับการดูแลอย่างดี ซึ่งช่วยเติมความสมจริงและมีชีวิตชีวาให้กับเรื่องราวในละครมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ต่อมา เราลองมาดู Highlight ความสำเร็จของ “ละครคุณธรรม” ในเชิงตัวเลข จากกระแสตอบรับของละครทั้ง 4 ตอนยอดวิวทะลุเป้า เกินความคาดหมาย มีผู้ชมมากกว่า 40 ล้านวิว และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทุกช่องทางของเพจดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์ พร้อมคอมเมนต์ชื่นชม และความแปลกใหม่ สวยงามของสถานที่ถ่ายทำ ตลอดจนเรื่องที่สนุกสนาน น่าติดตาม และยังเกิดมีมประโยคเด็ดในทุก ep อีกด้วย

จะเห็นได้ว่า แสนสิริ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสร้าง Engagement และสร้างการรับรู้ (Awareness) กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างน่าประทับใจ 

ที่สำคัญ เบื้องหลังของทุกบริการที่แสนสิริทำ ไม่ได้เป็นเพียงการ “ให้บริการหลังการขาย” แต่คือการออกแบบประสบการณ์ทุก Touchpoint อย่างเป็นระบบครอบคลุมทุกเรื่องการใช้ชีวิต

โดยบริการเหล่านี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเพื่อการตลาด แต่คือสิ่งที่แสนสิริทำมานานแล้ว

เพียงแต่วันนี้แสนสิริ “เล่าเรื่อง” ใหม่ให้ชัดเจนขึ้น สนุกขึ้น และเข้าถึงใจมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะเป็นละครที่เน้นความสนุกสนานและได้ข้อคิด แต่แสนสิริได้สอดแทรก 4 จุดแข็งสำคัญของ Sansiri Service ไว้อย่างแนบเนียนในแต่ละ EP ของละครคุณธรรม 

1. QUALITY - บ้านคุณภาพ อยู่สบายได้ยาว ๆ พร้อมตรวจเช็กคุณภาพ และบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวล

ผู้ชมจะสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นมืออาชีพและความเชี่ยวชาญของทีมงาน Sansiri Service ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ใส่ใจตั้งแต่โครงสร้างจนถึงการส่งมอบ ด้วยมาตรฐานการก่อสร้างที่ตรวจสอบกว่า 320 จุด พร้อมรับประกันโครงสร้างยาวนาน สูงสุด 5 ปี และบริการ Home Check-Up แบบเชิงรุก

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงก่อนส่งมอบ แสนสิริยังตรวจด้วยเทคโนโลยีทันสมัยกว่า 13 เครื่องมือ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหลังได้คุณภาพและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกบ้านว่าได้รับการดูแลจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถจริง

2. SECURITY - ปลอดภัยหายห่วง ด้วยระบบเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ตลอด 24 ชั่วโมง

โดยละครยังได้นำเสนอระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการแสนสิริ ที่ใช้ระบบ LIV-24 เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัย ใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง จับทุกความเคลื่อนไหว ผสานการทำงานของมนุษย์ในการควบคุมและดูแลแบบ Real-Time 24 ชั่วโมง ในการดูแลความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อให้ลูกบ้านและครอบครัวปลอดภัยทุกวัน ทุกเวลา

3. CARING - บริการเหนือระดับ ดูแลอย่างใส่ใจ ด้วยทีมนิติบุคคลมืออาชีพ คุณภาพมาตรฐานระดับสากล

ในหลาย ๆ ฉากของละคร จะเห็นถึงความใส่ใจของทีมงานแสนสิริในการรับฟัง พร้อมให้คำปรึกษา และแก้ไขปัญหาให้กับลูกบ้านอย่างรวดเร็ว 

ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กน้อย ที่อาจส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัย แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการดูแลลูกบ้านอย่างจริงจัง อีกทั้งยังมีบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ จากทีม พลัส พร็อพเพอร์ตี้ นิติบุคคลมืออาชีพที่ได้มาตรฐานระดับโลก (ISO และ Fitwel) บริการครอบคลุมทั้งการดูแลพื้นที่ส่วนกลางให้พร้อมใช้งานเสมอ รวมทั้งมีบริการ Concierge และ Butler Service สำหรับลูกค้าที่ต้องการความพิเศษ รวมถึงคำแนะนำด้านอสังหาฯ ในการปล่อยเช่า ซื้อ-ขาย แบบครบวงจร

4. COMMUNITY - ไม่ใช่แค่บ้าน แต่คือ “ชุมชนที่น่าอยู่” เพราะสังคมดี เพื่อนบ้านคุณภาพ ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัย

ละครไม่ได้เน้นแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังสอดแทรกถึงความตั้งใจของแสนสิริในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนกับลูกบ้าน ทั้งการดูแลเอาใจใส่ และการพร้อมอยู่เคียงข้างลูกบ้านในทุกช่วงเวลา

นอกจากนี้ แสนสิริออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้เป็น “Third Place” หรือพื้นที่แห่งที่สามนอกเหนือจากบ้านและที่ทำงาน เช่น Sansiri Backyard, Co-Kitchen, Co-Working Space 

รวมถึงกิจกรรมและสิทธิพิเศษที่สร้างความอบอุ่นในหมู่เพื่อนบ้าน รองรับทั้งคนทำงาน, ครอบครัว, เด็ก และแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง ให้ใช้ชีวิตแบบ Work-Life Integration ได้อย่างลงตัว

ทั้งหมดนี้ ต้องยอมรับว่า การที่แสนสิริศึกษา Customer Behavior & Media Consumption อย่างลึกซึ้ง และเลือก Partner ที่เหมาะสม พร้อมความกล้าที่จะใช้ความครีเอทีฟนำนั้น ทำให้ผู้ชมรู้สึกเพลิดเพลินและจดจำเนื้อหาเกี่ยวกับบริการหลังการขาย (After-Sales Service) ของแสนสิริ หรือ Sansiri Service ได้จนจบ โดยไม่รู้สึกเบื่อหน่ายหรือถูกยัดเยียดข้อมูล

อีกทั้งยังเป็นอะไรที่ไม่จำเจ เข้าถึงลูกค้าได้อย่างตรงจุด และจดจำได้ง่าย สะท้อนผ่านความสำเร็จด้านยอดวิว, Engagement และการถูกพูดถึง จนทำให้แบรนด์แสนสิริสามารถสร้างความแตกต่างและเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค ได้อย่างเกินความคาดหมายในท้ายที่สุด

สำหรับใครที่ยังไม่ได้เคยดู สามารถรับชมทั้ง 4 ตอน ได้แล้วที่ siri.ly/trEUB14

#Sansiri #SansiriService #SansiriLifeLongPromise #Sansiriละครคุณธรรม #SANSIRIxDOImaesalong #ศึกลูกเขยตัวร้ายกับแม่ยายตัวตึง #ดอยแม่สลองสื่อสังคมออนไลน์ #ละครสั้น #ละครคุณธรรม