ถอดรหัสความสำเร็จ 30 ปี “สมุนไพรวังพรม” ผ่านกลยุทธ์ปั้นแบรนด์ ที่ครองใจคนทุกยุคสมัย

ถอดรหัสความสำเร็จ 30 ปี “สมุนไพรวังพรม” ผ่านกลยุทธ์ปั้นแบรนด์ ที่ครองใจคนทุกยุคสมัย

13 มี.ค. 2025
ทุกคนรู้จัก คุณณเดชน์ คูกิมิยะ ในฐานะนักแสดงระดับแนวหน้า แต่สิ่งที่ทำให้เขาเป็นมากกว่านั้น คือ ความเป็น “ตัวตึง” ที่แท้จริง คนที่ทุ่มเท เต็มที่ในทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นการแสดง ชีวิตส่วนตัว หรือแม้แต่การดูแลสุขภาพ ตัวตึงที่ทำอะไรทำจริง ไม่ยอมแพ้ และพร้อมไปต่อเสมอ
เหมือนกับแม่ติ๋ว-ประนอม วังพรม หญิงแกร่งผู้สร้างแบรนด์สมุนไพรวังพรมจากศูนย์ ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ เธอไม่ได้แค่ขายของ แต่ยังคิดค้น พัฒนา และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้สมุนไพรไทย จากสินค้าพื้นบ้านสู่ผลิตภัณฑ์ระดับสากลที่ใคร ๆ ก็ต้องมีติดบ้าน และเคียงข้างภูมิปัญญานวดไทยไปทั่วโลก
นี่คือเหตุผลที่ คุณณเดชน์ และ วังพรม มาพบกันในโอกาสครบรอบ 30 ปีของแบรนด์วังพรม เพราะไม่ว่าจะเป็น “ตัวตึงในบทบาทชีวิต” หรือ “ตัวตึงทางร่างกาย” วังพรมพร้อมช่วยให้คุณไปต่อ
และวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จของวังพรม ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่การเป็นแบรนด์สมุนไพรชั้นนำ พร้อมไขความลับเรื่อง “ตัวตึงต้องได้ไปต่อ” ซึ่งเป็น Key Message หลักของวังพรม
“ตัวตึงต้องได้ไปต่อ” นั้นหมายถึงอะไร ? แล้ว “สมุนไพรวังพรม” ใช้กลยุทธ์อะไรในการปั้นแบรนด์ ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
ก่อนอื่น เรามาดูประวัติคร่าว ๆ ของแบรนด์วังพรมกันก่อน..
จุดเริ่มต้นของแบรนด์วังพรม เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2536 โดยมีผู้ก่อตั้ง คือ แม่ติ๋ว-ประนอม วังพรม ที่เริ่มจากทำธุรกิจซื้อมา-ขายไปสมุนไพร
ทีนี้พอทำธุรกิจจนเชี่ยวชาญในตัวยาสมุนไพร แม่ติ๋วจึงเริ่มพัฒนาสินค้าของตัวเองขึ้นมาบ้าง จนได้เป็น “ยาหม่องสูตรผสมไพล” สูตรแรกของวังพรม ที่ทำให้แบรนด์วังพรม เริ่มเป็นที่รู้จักขึ้นมาในวงกว้าง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 ก็มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อแม่ติ๋วได้คิดค้นสูตรยาหม่องที่ชื่อว่า “ยาหม่องสูตรผสมเสลดพังพอน” ที่นอกจากจะมีคุณสมบัติตอบโจทย์การปวดเมื่อยร่างกาย และแมลงกัดต่อยเเล้ว ยังมีกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครด้วย ทำให้สินค้าจากวังพรมขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ จนมีคู่ค้าจากนานาประเทศ
หลังจากนั้น วังพรม ก็มีสินค้าเพื่อช่วยบรรเทาจากสมุนไพรไทยปล่อยออกมาอีกมากมาย ทำให้บริษัทเติบโตต่อเนื่อง จนกลายเป็นแบรนด์สมุนไพรไทยที่คนทั่วโลกวางใจ และครองตําแหน่งแบรนด์ ยาหม่องสมุนไพรชั้นนํา มาตลอดตั้งแต่นั้นมา
แล้ว “ตัวตึงต้องได้ไปต่อ” ซึ่งเป็น Key Message หลักของวังพรม หมายถึงอะไร ?
ก็ต้องบอกว่าคำนี้ไม่ได้เป็นแค่สโลแกน แต่มันคือ แก่นแท้ของวังพรม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์และผู้ใช้
อันดับแรก “ตัวตึง” หมายถึง ตัวจริงในชีวิตจริง คนที่ต้องทำงานหนัก ฝ่าฟันอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง นักกีฬา แม่ค้า หรือพนักงานออฟฟิศ ทุกคนต้องมีพลังในการ “ไปต่อ” และวังพรมคือผู้ช่วยสำคัญ
อันดับสอง “ตัวตึง” หมายถึง ตัวตึงทางร่างกาย เพราะไม่ว่าอาการปวดเมื่อย คัดจมูก หรืออาการเจ็บปวดใด ๆ วังพรมก็ช่วยบรรเทา ผ่อนคลาย ให้คุณรู้สึกดีขึ้น พร้อมใช้ชีวิตต่อได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น การใช้คำว่า “ตัวตึงต้องได้ไปต่อ” ที่มีความหมายยิ่งใหญ่ระดับ Brand Attitude แต่เข้าถึงง่าย ทำให้วังพรมสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงาน คนสูงอายุ หรือแม้แต่กลุ่มนักกีฬา
ปัจจุบัน วังพรมมี 3 สินค้าหลัก ๆ ด้วยกัน ที่จะช่วยให้คุณพร้อมไปต่อ
- ยาหม่องสมุนไพรวังพรม กลิ่นหอม เย็นสบาย เนื้อนุ่มเนียน บรรเทาอาการปวดเมื่อย มี 8 สูตร ให้เลือกตามความต้องการ
- ยาดมสมุนไพรวังพรม ขวดเขียวเข้ม มีตะแกรงกั้นไม่กลัวหก กลิ่นหอมสมุนไพรเข้ม กลิ่นไม่ติดแก่ หอมเฉพาะตัว
- ยาน้ำมันสมุนไพรวังพรม สำหรับการนวดคลายเมื่อย ขวัญใจคนรักสมุนไพร จนเป็นที่สุดของการผ่อนคลาย
และเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปี วังพรม ที่ไม่เพียงแค่ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะแบรนด์สมุนไพรตัวตึง แต่ยังเป็นแบรนด์ที่คนรุ่นใหม่อยากใช้ด้วย ด้วยการเปิดตัวพรีเซนเตอร์ขวัญใจมหาชนอย่าง คุณณเดชน์ คูกิมิยะ
แล้วทำไม คุณณเดชน์ ถึงเป็น “ตัวตึง” ที่ใช่สำหรับวังพรม​ ?
การเลือกคุณณเดชน์ ไม่ใช่เพียงเพราะเขาเป็นนักแสดงเบอร์หนึ่งของวงการ แต่เพราะเขาสะท้อนจิตวิญญาณของวังพรมได้อย่างแท้จริง
- ตัวตึงของจริง
คุณณเดชน์ทุ่มเทให้กับทุกอย่างที่ทำอย่างจริงจังไม่ว่าจะบทบาทไหน เขาก็ทำเต็มที่เสมอ ตั้งแต่การแสดงไปจนถึงไลฟ์สไตล์สุขภาพ เหมือนกับวังพรมที่มุ่งมั่นสร้างสินค้าคุณภาพ เพื่อดูแลสุขภาพของทุกคนอย่างเต็มที่
- ติดดิน เข้าถึงง่าย
แม้จะเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่คุณณเดชน์ยังคงมีความเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย ตรงกับภาพลักษณ์ของวังพรมที่เป็นสมุนไพรไทยที่คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้
- หัวใจไทย ดังไกลระดับอินเตอร์
ต้องยอมรับว่าคุณณเดชน์ เป็นซูเปอร์สตาร์จากไทยเพียงไม่กี่คนที่โด่งดังถึงระดับอินเตอร์ เช่นเดียวกับวังพรมที่เติบโตจากสมุนไพรไทย สู่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
ด้วยคาแรกเตอร์ที่ตรงกันอย่างลงตัว ทำให้ คุณณเดชน์ คูกิมิยะ เป็นพรีเซนเตอร์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับวังพรม และพร้อมจะส่งต่อพลังของ “ตัวตึงต้องได้ไปต่อ” ให้กับทุกคน
คำถามต่อมาคือ “สมุนไพรวังพรม” ใช้กลยุทธ์อะไรในการปั้นแบรนด์ ?
- กลยุทธ์สร้างแบรนด์จากจุดแข็งของภูมิปัญญาไทย
วังพรมเริ่มต้นจากการใช้ สมุนไพรไทยและภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ที่สืบทอดมาจากวัดโพธิ์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสตร์การแพทย์แผนไทย อีกทั้งวังพรมยังสนับสนุน การนวดไทย และเป็นกําลังใจให้วงการนวดมาอย่างยาวนาน
ทำให้แบรนด์มีเอกลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ มีเรื่องราวและความเป็นมา ที่สามารถนำเสนอให้ลูกค้าเข้าใจถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์ได้
จนหลายคนยอมรับ วังพรม ในฐานะแบรนด์ที่สนับสนุนภูมิปัญญาไทย จากความรู้และภูมิปัญญาพื้นบ้านเกี่ยวกับสมุนไพรไทย ถูกนํามาพัฒนาต่อยอด เกิดเป็นผลิตภัณฑ์สําหรับทุกคน
- กลยุทธ์สร้างความแตกต่าง ด้วยสูตรเฉพาะที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้
สินค้าอัดเต็มไปด้วยสมุนไพรและกลิ่นดอกไม้ และด้วยการคิดค้นสูตรเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของวังพรมมีจุดขายที่ชัดเจน เช่น
ยาหม่องผสมไพล ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ง่ายและรวดเร็ว หรือ ยาหม่องผสมเสลดพังพอน ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย แล้วยังโดดเด่นในเรื่องการแก้คันจากแมลงกัดต่อย
สูตรเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในตำราทั่วไป จึงไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วังพรมเป็นผู้นำตลาดในหมวดสินค้ายาหม่องสมุนไพร
- กลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้คุณภาพสูงระดับมาตรฐานสากล
อีกหนึ่งจุดแข็งของวังพรมคือ ผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐานสากลในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน จนได้รับเครื่องหมายการันตีมาตรฐาน ทั้งไทยและสากล
และสินค้าที่ได้รับมาตรฐาน GMP PIC/S ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดที่ทําให้แบรนด์ส่งออกสินค้าได้ทั่วโลกซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการทำให้สมุนไพรไทยเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ
- กลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้สมุนไพรไทย เข้าถึงคนรุ่นใหม่
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของวังพรมคือ การทำให้สมุนไพรไทยไม่ดูเป็นของโบราณ แต่กลับเป็นสิ่งที่ทุกบ้านต้องมี และคนรุ่นใหม่ก็อยากใช้ ผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่พรีเมียมและทันสมัย เช่น ยาดมสมุนไพรขวดเขียวเข้ม ที่ดิไซน์ให้ดูเป็นสินค้าระดับพรีเมียม
สุดท้ายนี้ มาร่วมจับตาการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ วังพรม กับการเปิดตัวแคมเปญ “ตัวตึงต้องได้ไปต่อ” ฉลอง “30 ปี วังพรม” พร้อมกับโฆษณาสุดพิเศษของคุณณเดชน์ ที่จะทำให้คนมองสมุนไพรไทยในมุมใหม่ ๆ พร้อมความเป็นตัวตึงในสมุนไพรไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกกัน
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.