สรุปดีลแปลก BEAUTRIUM x BONCHON ทำ “ลิปไก่ทอดซอสเกาหลี”

ปัจจุบันการ Collaboration Marketing มักเป็นลูกเล่นที่หลาย ๆ แบรนด์ นำมาใช้ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงและแลกเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ของแบรนด์ที่ร่วมคอลแลปด้วยกันได้

ล่าสุด BEAUTRIUM บิวตีรีเทล ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้ใช้กลยุทธ์ Collaboration Marketing นี้ ด้วยการประกาศคอลแลปกับ BONCHON แบรนด์ไก่ทอดสไตล์เกาหลี เปิดตัวลิปทินต์ไก่ทอดซอสเกาหลี

ซึ่งการร่วมมือระหว่าง Beauty & Food ในครั้งนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?

BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ 

สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่า ทำไมร้านที่ขายสินค้าบิวตีอย่าง BEAUTRIUM ถึงเลือกมาคอลแลปกับร้านไก่ทอดอย่าง BONCHON ?

เรื่องนี้คุณอติโรจน์ โรจน์รัตนวลี ประทานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด ได้เล่าเบื้องหลังการคอลแลปในครั้งนี้ให้ฟังว่า

การเลือก BONCHON เป็นพันธมิตร เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจในสินค้ากลุ่มเกาหลีโดยเฉพาะ เพราะเมื่อนึกถึงธุรกิจเกี่ยวกับเกาหลี ธุรกิจอาหารถือเป็นหนึ่งใน K-Culture ที่สำคัญ ซึ่งร้านไก่ทอดเกาหลีในประเทศไทย แบรนด์แรกที่คนส่วนมากนึกถึงคือ BONCHON

อีกทั้งภาพลักษณ์ของบิวเทรี่ยมและบอนชอนยังมีความสอดคล้องกัน อย่างเช่นสีแดงสะดุดตาที่เป็นอัตลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ นอกจากนั้นลูกค้าที่เป็นกลุ่มวัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงานมีไลฟ์สไตล์และความสนใจในเรื่องใกล้เคียงกัน ทั้งเรื่องอาหารการกิน แฟชั่น ตลอดจนความสวยความงาม 

การร่วมมือกันครั้งนี้จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการเติบโตผสมผสานและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าของกันและกัน ควบคู่ไปกับขยายฐานลูกค้าและการแบ่งปันกลุ่มลูกค้า (Shared Target Market) รวมถึงการดึงความสนใจให้ลองของใหม่ในกลุ่มลูกค้าใหม่ของทั้ง 2 แบรนด์ 

อีกทั้งยังสอดคล้องกับแคมเปญ BEAUTRIUM K-BEAUTY FEST ที่รวมสุดยอดสินค้าแบรนด์ดังส่งตรงจากเกาหลีและรวมสินค้า K - BEAUTY เยอะที่สุดในประเทศ พร้อมโปรโมชันพิเศษที่กำลังจัดขึ้นในร้าน BEAUTRIUM 46 สาขาทั่วประเทศอีกด้วย 

สำหรับผลิตภัณฑ์ ‘Korean Spicy Chicken Oil Tint ลิปไก่ทอดซอสเกาหลี’ เป็นการนำจุดขายรวมถึงจุดแข็งของทั้งสองธุรกิจอย่างบิวเทรี่ยมและบอนชอนมาผสมเข้าด้วยกัน นั่นก็คือบิวตีไอเทมอย่างลิปสติกและเมนู Signature ของบอนชอนอย่างไก่ทอด Hot Spicy 

ซึ่งเป็นการจับคู่ที่มาจากเอกลักษณ์ของสินค้าแต่ละแบรนด์ อีกทั้งลิปยังเป็นสินค้าชูโรงของฝั่งเครื่องสําอางและจัดเป็นกลุ่มสินค้าที่มีส่วนแบ่งการตลาด (market share) กว้าง มีกลุ่มผู้ซื้อหลากหลายช่วงวัย ที่สำคัญเป็นประเภทสินค้าที่เข้าถึงง่าย และเป็นบิวตีไอเทมที่มีคนใช้เยอะที่สุด 

เมื่อนำมาผสมผสานกับไก่ทอดซอสเกาหลีของบอนชอน นอกจากสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคแล้ว อีกด้านหนึ่งยังทำให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการคอลแลปข้ามขั้วระหว่างธุรกิจความงามและธุรกิจอาหารอีกด้วย 

จากปีที่ผ่านมายอดขายของ BEAUTRIUM มีการเติบโตดี อีกทั้งแบรนด์ยังมีเป้าที่จะขยายสินค้า K-beauty มากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า 

ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้พักหลัง ๆ เราเริ่มเห็นแบรนด์ BEAUTRIUM ขยันทำการตลาดและออกแคมเปญที่เกี่ยวกับเกาหลีมากขึ้นนั่นเอง..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลตัวเลขที่น่าสนใจ  

ผลประกอบการ 3 ปีที่ผ่านมา ของบริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด

ปี 2564 รายได้รวม 480 ล้านบาท

ปี 2565 รายได้รวม 1,110 ล้านบาท

ปี 2566 รายได้รวม 2,384 ล้านบาท  

Reference

-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า