สรุปเครือ MQDC บริษัทอสังหาฯ ที่ดูแลโดย ลูกสาวเจ้าสัว CP
11 มี.ค. 2024
สรุปเครือ MQDC บริษัทอสังหาฯ ที่ดูแลโดย ลูกสาวเจ้าสัว CP | BrandCase
MQDC เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนา โครงการระดับบิ๊กต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร เช่น
True Digital Park ฮับธุรกิจสตาร์ตอัปแห่งใหม่ ติด BTS ปุณณวิถีThe Forestias โครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ ติดถนนบางนา-ตราดMagnolias Waterfront Residences คอนโดมิเนียมหรูข้างไอคอนสยาม ปัจจุบันยังเป็นตึกสูงที่สุดในประเทศไทย
โดยเจ้าของและผู้ปลุกปั้น MQDC ก็คือ คุณทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์
ลูกสาวคนสุดท้องของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือเครือ CP
ลูกสาวคนสุดท้องของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือเครือ CP
แล้วเรื่องราวของ MQDC ตั้งแต่จุดเริ่มต้น มาจนถึงวันนี้ น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
MQDC เริ่มต้นจากการเป็นผู้พัฒนาหมู่บ้านทาวน์เฮาส์เล็ก ๆ ในปี 2537 หรือเมื่อ 30 ปีก่อน
โครงการที่พักอาศัยแห่งแรก ก็คือโครงการทาวน์แอนด์คันทรี่ ในเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
โดยตัวโครงการคิดเป็นมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท ในตอนนั้น
โดยตัวโครงการคิดเป็นมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท ในตอนนั้น
ซึ่งในเวลาต่อมา ก็เกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ทำให้ MQDC ทิ้งช่วงระยะเวลาการลงทุนไปนานมากพอสมควร
จนกระทั่ง MQDC ได้เริ่มต้นลงทุน ในโครงการที่พักอาศัยอีกครั้งในปี 2549
โดยใช้ชื่อโครงการว่า แมกโนเลียส์ เซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย
บริเวณเส้น บางนา-ตราด กม.7 ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน
ซึ่งก็เป็นโรงเรียนที่ลูกสาวคนโตของเจ้าสัวธนินท์ เป็นผู้ก่อตั้ง
บริเวณเส้น บางนา-ตราด กม.7 ตรงข้ามโรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน
ซึ่งก็เป็นโรงเรียนที่ลูกสาวคนโตของเจ้าสัวธนินท์ เป็นผู้ก่อตั้ง
โครงการที่ว่านี้ เป็นหมู่บ้านและคอนโดมิเนียม ที่มีมูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท
และนับว่าเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ โครงการแรกของ MQDC
และนับว่าเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ โครงการแรกของ MQDC
ต่อมา MQDC ก็ได้แตกแบรนด์คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ชื่อ Whizdom
เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในระดับกลาง-บน
เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในระดับกลาง-บน
พร้อมกับเปิดตัวคอนโดมิเนียม Whizdom อีก 2 โครงการ นั่นคือ
โครงการ Whizdom The Exclusive เปิดตัวในปี 2552โครงการ Whizdom @ Punnawithi Station เปิดตัวในปี 2553
โดยทั้ง 2 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก
ซึ่งเป็นคอนโดแบบ Low Rise ที่มีแค่ 8 ชั้น และตัวโครงการห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถีเพียง 400 เมตร
ซึ่งเป็นคอนโดแบบ Low Rise ที่มีแค่ 8 ชั้น และตัวโครงการห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถีเพียง 400 เมตร
ซึ่งต้องบอกว่าในตอนนั้น BTS ปุณณวิถี กำลังก่อสร้างเป็นส่วนต่อขยาย และยังไม่เปิดให้บริการเลยด้วยซ้ำ
โซนปุณณวิถีในตอนนั้น ยังเป็นโซนที่เลยจากสถานีปลายทางอ่อนนุช ที่รถไฟฟ้ายังไปไม่ถึง
จึงทำให้โซนนั้นยังถูกมองว่าเป็นโซนสุขุมวิทที่ทำเลไม่ค่อยดีนัก
และแทบจะไม่มีผู้พัฒนาหรือ Developer รายไหน กล้ามาจับจองที่ดิน เพื่อสร้างเป็นคอนโดมิเนียมในโซนนี้
และแทบจะไม่มีผู้พัฒนาหรือ Developer รายไหน กล้ามาจับจองที่ดิน เพื่อสร้างเป็นคอนโดมิเนียมในโซนนี้
ทำให้ MQDC เป็นรายแรก ๆ ที่จับจองพื้นที่ตรง BTS ปุณณวิถี เพื่อสร้างคอนโดมิเนียมในย่านนั้น
นอกจากคอนโด Whizdom แล้ว MQDC เองก็ยังมีแบรนด์ Magnolias ซึ่งเป็นแบรนด์ที่พักอาศัยที่เป็นตัวชูโรงให้กับ MQDC
แล้วนำแบรนด์ Magnolias ไปทำที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น
โครงการ แมกโนเลียส์ เฟรนช์ คันทรี ที่เขาใหญ่โครงการ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด
โดยโครงการนี้ ก็จะเป็นคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี และโรงแรม 5 ดาวในตึกเดียวกัน ที่มีความสูงกว่า 70 ชั้น ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท
ซึ่งโครงการ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ได้เปิดตึกเมื่อปี 2559
ปัจจุบันโครงการ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด เป็นโครงการที่พักอาศัยระดับหรู ใจกลางย่านราชดำริ โดยเป็นตึกสูงอันดับที่ 11 ของประเทศไทย ในปัจจุบัน
ซึ่งในเวลาต่อมา MQDC ก็ได้แตกแบรนด์ที่พักอาศัย เป็นแบรนด์ต่าง ๆ อีก
อย่างเช่น Mulberry Grove และ The Aspen Tree
อย่างเช่น Mulberry Grove และ The Aspen Tree
นอกจากโครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์แล้ว
MQDC ก็ยังได้ร่วมทุนกับบริษัทในเครือ CP รวมถึงบริษัทอื่น ๆ เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสต่าง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น
MQDC ก็ยังได้ร่วมทุนกับบริษัทในเครือ CP รวมถึงบริษัทอื่น ๆ เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสต่าง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น
ร่วมทุนกับกลุ่ม CP และสยามพิวรรธน์ เพื่อพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ICONSIAM
โดย MQDC จะรับผิดชอบก่อสร้างในส่วนของ
คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี 2 แห่ง ที่อยู่ติดกับศูนย์การค้า ICONSIAM นั่นคือ
คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี 2 แห่ง ที่อยู่ติดกับศูนย์การค้า ICONSIAM นั่นคือ
The Residences at Mandarin Oriental
คอนโดมิเนียมหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บริหารจัดการโดยแบรนด์โรงแรมระดับ 5 ดาว อย่าง แมนดาริน โอเรียนเต็ลMagnolias Waterfront Residences at ICONSIAM
คอนโดมิเนียมหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยาสูง 70 ชั้น ซึ่งนับว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยในตอนนี้
คอนโดมิเนียมหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยา ที่บริหารจัดการโดยแบรนด์โรงแรมระดับ 5 ดาว อย่าง แมนดาริน โอเรียนเต็ลMagnolias Waterfront Residences at ICONSIAM
คอนโดมิเนียมหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยาสูง 70 ชั้น ซึ่งนับว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยในตอนนี้
ร่วมทุนกับกลุ่ม True Corporation เพื่อพัฒนาโครงการ True Digital Park
โดย MQDC ได้เข้าไปซื้อที่ดิน ตรงปิยรมย์สปอร์ตคลับ บริเวณใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ด้วยเนื้อที่ทั้งหมด 43 ไร่ จากคุณปิยะ จิตตาลาน ด้วยมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท เมื่อปี 2556
ซึ่งแรกเริ่มเดิมที MQDC ตั้งใจจะใช้ที่ดินแปลงนี้ สร้างเป็นโครงการที่พักอาศัยเพียงอย่างเดียว
แต่ต่อมา MQDC ก็เล็งเห็นว่า พื้นที่กรุงเทพมหานคร โซนสุขุมวิทตอนปลาย ตั้งแต่อ่อนนุชเป็นต้นไปจนถึงสมุทรปราการนั้น เริ่มมีความเจริญและมีการขยายตัวขึ้นมาก
เมื่อเห็นดังนั้น MQDC จึงได้ตัดสินใจยกระดับเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ชื่อ True Digital Park ขึ้น ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 30,000 ล้านบาท
โดยตั้งใจให้เป็นฮับของธุรกิจสตาร์ตอัป หรือเป็น Third Place หรือก็คือ สถานที่สำหรับให้คนไปนั่งทำงาน อ่านหนังสือ และมีพื้นที่สีเขียว สำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้ในที่เดียวกัน
โดย True Digital Park ก็จะประกอบด้วย ศูนย์การค้า, ออฟฟิศ
พื้นที่สำหรับธุรกิจสตาร์ตอัป, Co-working space และคอนโดมิเนียม Whizdom 3 โครงการ
พื้นที่สำหรับธุรกิจสตาร์ตอัป, Co-working space และคอนโดมิเนียม Whizdom 3 โครงการ
นอกจากนี้ภายในมิกซ์ยูส ก็ยังเป็นที่ตั้งสำนักงานของบริษัทย่อยในเครือ True Corporation ด้วย
ตั้งแต่ที่ True Digital Park ได้เปิดตัว ก็ได้เปิดทางให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น
หันมาสนใจพื้นที่สุขุมวิทตอนปลาย อย่างโซนอุดมสุข บางนา หรือแบริ่ง
หันมาสนใจพื้นที่สุขุมวิทตอนปลาย อย่างโซนอุดมสุข บางนา หรือแบริ่ง
เพื่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า และคอนโดมิเนียมมากขึ้น
นอกจากโครงการขนาดใหญ่
อย่าง แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด, ICONSIAM และ True Digital Park แล้ว
อย่าง แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด, ICONSIAM และ True Digital Park แล้ว
MQDC ก็กำลังมีโครงการมิกซ์ยูส ที่กำลังพัฒนาเพิ่มอีก 2 แห่ง นั่นคือ
โครงการ THE FORESTIAS เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์
ที่ชูแนวคิดในการสร้างที่อยู่อาศัยรอบ ๆ พื้นที่สีเขียว โดยจะมีการสร้างผืนป่า 30 ไร่รอบ ๆ ตัวโครงการ
ที่ชูแนวคิดในการสร้างที่อยู่อาศัยรอบ ๆ พื้นที่สีเขียว โดยจะมีการสร้างผืนป่า 30 ไร่รอบ ๆ ตัวโครงการ
เมื่อโครงการ THE FORESTIAS สร้างเสร็จ ก็จะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์
ที่ใหญ่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่ถึง 398 ไร่ บนทำเล บางนา-ตราด
ที่ใหญ่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่ถึง 398 ไร่ บนทำเล บางนา-ตราด
ซึ่งตัวโครงการก็มีมูลค่าสูงถึง 125,000 ล้านบาท
โดยภายในโครงการ ก็จะประกอบด้วยที่พักอาศัยระดับบนขึ้นไป ถึง 5 แบรนด์ในเครือของ MQDC เช่น
Whizdom, Mulberry Grove และ The Aspen Tree
Whizdom, Mulberry Grove และ The Aspen Tree
นอกจากนี้ ภายในโครงการก็ยังมีโรงแรม คอมมิวนิตีมอลล์ และอาคารสำนักงาน เพื่อเป็นส่วนเสริมให้กับโครงการที่พักอาศัย THE FORESTIAS อีกด้วย
โดยทาง MQDC ได้กล่าวว่า THE FORESTIAS จะเสร็จสมบูรณ์ทุกโครงการ
และพร้อมให้ลูกบ้านได้เข้าอยู่อาศัยภายในปี 2567 นี้
และพร้อมให้ลูกบ้านได้เข้าอยู่อาศัยภายในปี 2567 นี้
โครงการมิกซ์ยูส Cloud 11 ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่พัฒนาต่อจากโครงการ True Digital Park
โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันเลย
โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันเลย
โดยโครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ MQDC ตั้งใจจะให้เป็นฮับของคอนเทนต์ครีเอเตอร์
และอุตสาหกรรมบันเทิงในประเทศไทย
และอุตสาหกรรมบันเทิงในประเทศไทย
ซึ่งตัวมิกซ์ยูสก็จะประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้า, สตูดิโอสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์,
ออฟฟิศ 2 แห่ง และโรงแรมอีก 2 แห่ง โดยโซนตรงกลางจะเป็นพื้นที่สีเขียวให้พักผ่อนหย่อนใจ
ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 40,000 ล้านบาท
ออฟฟิศ 2 แห่ง และโรงแรมอีก 2 แห่ง โดยโซนตรงกลางจะเป็นพื้นที่สีเขียวให้พักผ่อนหย่อนใจ
ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 40,000 ล้านบาท
ซึ่ง Cloud 11 คาดว่าทั้งโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ได้ภายในปี 2567
มาถึงตรงนี้ ก็พอจะมองเห็นโครงการทั้งหมดของ MQDC
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการที่พักอาศัย หรือโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการที่พักอาศัย หรือโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่
ดังนั้น รายได้ของบริษัท ก็ต้องมาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ และรายได้จากค่าเช่า
ซึ่งถ้าเราไปดูผลประกอบการของ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เราก็จะเห็นว่า
ปี 2563 รายได้ 3,394 ล้านบาท กำไร 344 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 4,238 ล้านบาท กำไร 551 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 5,285 ล้านบาท กำไร 217 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 4,238 ล้านบาท กำไร 551 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 5,285 ล้านบาท กำไร 217 ล้านบาท
ซึ่งเราจะเห็นกำไรของ MQDC ที่ลดลงนั้น เกิดจากต้นทุนหลายอย่างที่ควบคุมยาก
เช่น ค่าวัสดุก่อสร้าง ที่มีความผันผวนตามราคาตลาด
เช่น ค่าวัสดุก่อสร้าง ที่มีความผันผวนตามราคาตลาด
รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากเงินกู้ธนาคาร เพื่อนำมาก่อสร้างโครงการต่าง ๆ
ซึ่ง MQDC ได้ลงทุนในโครงการที่มีมูลค่าสูงกว่า 10,000 ล้านบาทหลายโครงการในช่วงหลัง ๆ
ซึ่ง MQDC ได้ลงทุนในโครงการที่มีมูลค่าสูงกว่า 10,000 ล้านบาทหลายโครงการในช่วงหลัง ๆ
และทั้งหมดนี้ ก็คือเส้นทางของ MQDC ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จากหมู่บ้านจัดสรรในหนองจอก
มาสู่การยกระดับแบรนด์ของตัวเอง ให้เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระดับไฮเอนด์ไปจนถึงระดับลักชัวรี
ในระดับแนวหน้าของประเทศ
ในระดับแนวหน้าของประเทศ
ซึ่งมีหัวเรือใหญ่ คือคุณทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์
ลูกสาวคนสุดท้องของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ..
ลูกสาวคนสุดท้องของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
มูลค่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ The Forestias ทั้งหมด 125,000 ล้านบาท
มีมูลค่าพอ ๆ กับโครงการ One Bangkok ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ใจกลางกรุงเทพมหานครที่กำลังสร้าง
โดย One Bangkok มีมูลค่าโครงการทั้งหมด 120,000 ล้านบาท..
References
-Thaibma โครงสร้างและการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท MQDC
-https://mqdc.com/th/about
-https://mqdc.com/discover-project/theforestias/
-https://www.hipflat.co.th/projects/whizdom-the-exclusive-aqkohf
-https://thinkofliving.com/
-https://marketeeronline.co/archives/43015
-Thaibma โครงสร้างและการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท MQDC
-https://mqdc.com/th/about
-https://mqdc.com/discover-project/theforestias/
-https://www.hipflat.co.th/projects/whizdom-the-exclusive-aqkohf
-https://thinkofliving.com/
-https://marketeeronline.co/archives/43015
Tag:เครือ MQDC