แนวคิดเบื้องหลัง BBLAM จัดตั้งกองทุน BKIND กองทุนรวมกองแรก ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานแบบ ESGC

แนวคิดเบื้องหลัง BBLAM จัดตั้งกองทุน BKIND กองทุนรวมกองแรก ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานแบบ ESGC

7 ก.พ. 2024
BBLAM x BrandCase
เทรนด์การลงทุนในปัจจุบัน ที่ต้องพูดเน้น ก็คือ การลงทุนในบริษัท ที่มีการดำเนินงานแบบ ESG
หรือพูดง่าย ๆ คือ ให้ความสำคัญในการใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
พอ ๆ กับการให้ความสำคัญ กับผลประกอบการ หรือกำไรของบริษัท
จะเห็นว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนหลายแห่ง เลือกที่จะลงทุนในบริษัทที่คำนึงถึง ESG ที่เห็นผลลัพธ์ในเชิงบวกด้วย
ซึ่ง BBLAM หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด
ตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นบริษัทแรก มาตลอดระยะเวลา 9 ปี
โดย BBLAM ได้จัดตั้งกองทุนรวม ESG เป็นกองทุนรวมแรก ๆ ของประเทศไทย
ชื่อว่า BKIND หรือ กองทุนรวมคนไทยใจดี
ความน่าสนใจของกองทุนรวม BKIND คือ จะคัดเลือกบริษัทเพื่อลงทุน
โดยคำนึงถึงเรื่อง ESGC เป็นหลัก ซึ่งประกอบไปด้วย
E = Environment หรือการลงทุนในบริษัทที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
S = Social Responsibility หรือความรับผิดชอบต่อสังคม
G = Good Governance หรือบรรษัทภิบาล
และสุดท้ายคือตัว C หรือ Anti-Corruption ซึ่งเป็นความสำคัญที่ทาง BBLAM ได้เพิ่มเข้ามา
เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า กองทุนรวม BKIND และกองทุนรวมอื่น ๆ ของ BBLAM จะต่อต้านการคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ รวมถึงแนวคิดในการลงทุนที่ว่า “การทำดีเริ่มต้นได้จากการลงทุน”
โดยทาง BBLAM จะแบ่ง 40% ของรายได้ จากค่าบริหารจัดการกองทุน ไปบริจาคให้กับโครงการสาธารณประโยชน์ หรือโครงการ CSR ตามชุมชน หรือหน่วยงานต่าง ๆ
ซึ่งกองทุนรวม BKIND ได้สนับสนุนโครงการเพื่อสังคมไปแล้วถึง 62 โครงการ
เป็นจำนวนเงินกว่า 49 ล้านบาท
โดยตัวอย่างโครงการต่าง ๆ ที่ BBLAM ได้สนับสนุนผ่านกองทุนรวม BKIND นี้ ก็อย่างเช่น
- โครงการด้านเด็กและเยาวชน เช่น โครงการดูแลเด็กที่เกิดภาวะซึมเศร้า และบำบัดยาเสพติด
ในจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกับพัฒนาศักยภาพครู และสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับนักเรียน
- โครงการป่าและธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับชุมชน เช่น โครงการรักษาป่าต้นน้ำ
โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ บริษัท เดอะ เน็กซ์ ฟอเร็ซ จำกัด
เพื่อฟื้นฟูป่าของชุมชนให้คงความอุดมสมบูรณ์ และดำเนินการดูแลรักษาพื้นที่ป่า
- โครงการปลูกฝังคุณธรรม และจริยธรรม เช่น โครงการโตไปไม่โกง เพื่อปลูกฝังค่านิยมและจิตสำนึกเพื่อต่อต้านการคอร์รัปชัน
- โครงการเพื่อผู้สูงอายุ เช่น โครงการจัดหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ โดยหลักสูตรจะเจาะกลุ่มเยาวชนผู้ด้อยโอกาส เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุ
- โครงการด้านอาหารและโภชนาการที่ดี เช่น โครงการ FOOD FOR GOOD ภายใต้มูลนิธิยุวพัฒน์ เพื่อแก้ปัญหาทางด้านโภชนาการของเด็กไทย และให้เด็กไทยได้รับความสมดุลทางด้านโภชนาการมากขึ้น
จากตัวอย่างทั้ง 5 โครงการนี้ ก็ทำให้เห็นว่า นอกจากที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว
ผู้ลงทุนก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของแรงขับเคลื่อน ในการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับสังคม ตั้งแต่เงินบาทแรกที่เราได้ลงทุนไป นั่นเอง
นอกจากกองทุนรวม BKIND แล้ว BBLAM ก็ยังมีอีกหนึ่งกองทุนรวม ESG อื่น ๆ
ที่น่าสนใจอีก ไม่ว่าจะเป็น
- กองทุนรวม B-THAICG หรือกองทุนรวมบัวหลวงหุ้นธรรมาภิบาลไทย ซึ่งกองทุนนี้จะเน้นลงทุนเจาะไปในบริษัท ที่มีการดำเนินงานที่โปร่งใส รวมถึงมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยได้รับการรับรอง การเป็นสมาชิกของ CAC หรือ บริษัทที่ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทย ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
ซึ่งกองทุนรวม B-THAICG ก็มีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เพื่อสังคมเช่นกัน
โดยตัวอย่างโครงการต่าง ๆ ที่ BBLAM ได้สนับสนุนผ่านกองทุนรวม B-THAICG ก็อย่างเช่น
- โครงการเกมเพื่อการเรียนรู้การต่อต้านคอร์รัปชัน (Corrupt the game)
- โครงการหลักสูตรสุจริตไทย
- โครงการพัฒนาหลักสูตรเพื่อการพัฒนาครู สู่การปลูกฝังคุณธรรมและธรรมาภิบาลในห้องเรียน
- โครงการยกระดับคุณภาพป่าชุมชน เพื่อระบบนิเวศที่สมบูรณ์
การสร้างความมั่นคงของชีวิต และการบริหารจัดการที่มีธรรมาภิบาล
- โครงการ Big Open Data
ซึ่งกองทุนรวม B-THAICG ได้สนับสนุนโครงการเพื่อสังคมไปแล้วถึง 23 โครงการ
เป็นจำนวนเงินกว่า 90 ล้านบาท
โดยโครงการเพื่อสังคม จะมุ่งเน้นไปที่โครงการต่อต้านการคอร์รัปชันเป็นหลัก
- และล่าสุด กับกองทุน Thai ESG ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา กองทุนรวม B-TOP-THAIESG หรือกองทุนรวมบัวหลวงทศพลไทยเพื่อความยั่งยืน
ซึ่งกองทุนรวมนี้จะคัดเลือกหุ้น โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ข้อมูลทางด้านการเงิน
มาตัดสินใจควบคู่กับความสามารถ ในการบริหารจัดการด้าน ESG ของบริษัท
โดยกองทุนนี้ จะลงทุนในหุ้น ESG ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก
มากกว่า 80% ของมูลค่าพอร์ต
นอกจากนี้ กองทุนรวม B-TOP-THAIESG เป็นกองทุนรวมชนิด Thai ESG
ที่ผู้ลงทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย
ดังนั้น กองทุนรวม B-TOP-THAIESG จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีภาระทางภาษี แต่ก็อยากลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวเช่นกัน
แล้วกองทุนรวม BKIND, กองทุนรวม B-THAICG และกองทุนรวม B-TOP-THAIESG
ทำไมถึงน่าสนใจ ?
ต้องบอกว่า ทั้ง 3 กองทุนรวมนี้ มีจุดเด่นที่เหมือนกัน คือ เลือกลงทุนในบริษัทที่มีธรรมาภิบาลดี
ซึ่ง BBLAM ก็ได้คัดเลือกหุ้น จากตลาดหุ้น SET และ mai ทั้งหมด
แล้วมาจัดอันดับด้านความยั่งยืน โดยอ้างอิงจากดัชนีต่าง ๆ เช่น CG Rating และ SET ESG Ratings
หลังจากนั้น ก็นำหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ธรรมาภิบาลจากดัชนีต่าง ๆ มาคัดกรองต่อ
โดย BBLAM ก็จะเน้นเลือกลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกำไรที่เติบโต และมีกิจการที่มั่นคง
นอกจากนี้ BBLAM ยังได้ตอกย้ำจุดยืน ในเรื่องการเลือกลงทุนในบริษัทที่คำนึงถึงเรื่อง ESGC
โดยการร่วมลงนาม “Sustainability Partnership Agreement” กับ Wellington Management ผู้จัดการกองทุนระดับโลก
โดย Wellington Management เป็นผู้นำด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนมาอย่างยาวนาน
ซึ่งมีเครื่องมือหลายอย่าง ที่จะนำมาใช้วิเคราะห์การลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวอย่างยั่งยืน
โดยการร่วมมือกับ Wellington Management ในครั้งนี้ ก็เพื่อมุ่งหวังต่อยอดความรู้ ความเข้าใจด้านความยั่งยืน จากระดับองค์กร สู่การพัฒนาด้านตลาดทุนไทยให้ก้าวไป พร้อมกับยกระดับการตระหนักรู้ในเรื่อง ESG ของคนไทย เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคง สู่การลงทุนที่ยั่งยืนต่อไป..
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน
References
-https://www.bblam.co.th/products/mutual-funds/equity-fund/bkind/update#content
-รายงานประจําปี กองทุนรวมคนไทยใจดี BKIND วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2566
-รายงานประจําปี กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นธรรมาภิบาลไทย B-THAICG
วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566
-ข้อมูลและรายละเอียดกองทุนเปิด กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นธรรมาภิบาลไทย B-THAICG
ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2566
-https://www.set.or.th/th/home
-BBLAM กับการร่วมมือกับ Wellington, สำนักข่าวไทยรัฐ
Tag:BBLAM
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.