เจาะลึกธุรกิจ PRIMO บริษัทนิติบุคคล 7,000 ล้าน ลูกรัก ORIGIN

เจาะลึกธุรกิจ PRIMO บริษัทนิติบุคคล 7,000 ล้าน ลูกรัก ORIGIN

25 พ.ย. 2023
เจาะลึกธุรกิจ PRIMO บริษัทนิติบุคคล 7,000 ล้าน ลูกรัก ORIGIN | BrandCase
“นิติบุคคล” ได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี สำหรับคอนโดมิเนียม หรือหมู่บ้านจัดสรรต่าง ๆ
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ความจริงแล้วมีบริษัทบริหารนิติบุคคล ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย
ที่น่าสนใจคือ บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทบริหารนิติบุคคลเพียงบริษัทเดียว
ที่อยู่ในตลาดหุ้น และตอนนี้มีมูลค่าบริษัทสูงถึง 7,000 ล้านบาท
โดยบริษัทที่ว่านี้ก็คือ บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRIMO
ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORIGIN)
ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียม แบรนด์ดังที่เรารู้จักกันดี อย่าง The Origin, Park Origin
แล้ว บริษัทนิติบุคคล PRIMO น่าสนใจอย่างไร ถึงมีมูลค่ามากถึง 7,000 ล้านบาท
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
เรื่องของ พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRIMO เริ่มขึ้น หลังจากที่บริษัท ORIGIN ของคุณพีระพงศ์ และคุณอารดา จรูญเอก เริ่มประสบความสำเร็จในธุรกิจคอนโดมิเนียมแล้ว
ทำให้ในเวลาต่อมา พวกเขาก็ได้เห็นโอกาสในธุรกิจอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์อย่าง “ธุรกิจบริหารนิติบุคคล”
เหมือนกับคอนโดมิเนียมอย่างแสนสิริและลุมพินี ที่ได้แตกธุรกิจบริหารนิติบุคคล ออกมาเป็นบริษัทย่อย เพื่อดูแลลูกบ้านคอนโดมิเนียม และหมู่บ้านจัดสรรแยกต่างหากไปเลย
เช่น บจ.พลัส พร็อพเพอร์ตี้ และ บจ.แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์
แถมธุรกิจบริหารนิติบุคคล ยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือ ไม่จำเป็นต้องผูกติดกับโครงการอสังหาริมทรัพย์
ของบริษัทแม่เท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าไปให้บริการในโครงการของคู่แข่งได้อีกด้วย
เมื่อเป็นดังนั้น ครอบครัวจรูญเอก จึงได้แตกบริษัทใหม่ชื่อ
บริษัท คอนโด เอเจนซี่ แอนด์ เมเนจเม้นท์ จำกัด ในปี 2554 เพื่อทำธุรกิจบริหารนิติบุคคลโดยเฉพาะ
ซึ่งต่อมา บริษัทก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท พรีโม พร็อพเพอร์ตี้ โซลูชั่น จำกัด
โดยบริษัทเริ่มมาจาก การทำธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการนิติบุคคล เป็นนายหน้าจัดหาผู้เช่า
และทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลาง ก่อนเปิดโครงการ
ในเวลาต่อมา บริษัท พรีโม ก็ได้ขยายธุรกิจให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์อีก เช่น
ธุรกิจที่ปรึกษาโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้กับบริษัทอื่น ๆ
และล่าสุดบริษัท ก็ได้ตัดสินใจระดมทุน IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ที่ผ่านมา โดยใช้ตัวย่อหุ้นว่า PRI
ปัจจุบัน PRIMO มีบริษัทย่อย ที่ให้บริการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มากถึง 10 บริษัท
โดยภายใน 10 บริษัทนี้ ก็จะถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ ธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ธุรกิจต้นน้ำ จะโฟกัสไปที่งานออกแบบ ก่อสร้าง
หรือขยายความให้ชัดขึ้นคือ มีทั้งงานออกแบบ ให้คำปรึกษา และควบคุมงานก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์
ให้กับโครงการคอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร ศูนย์การค้า โรงแรม ไปจนถึงโรงงานต่าง ๆ แบบครบวงจร
ธุรกิจกลางน้ำ จะโฟกัสไปที่ การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์
ตัวอย่างบริษัทย่อยในหมวดธุรกิจกลางน้ำ เช่น
Primo Management (PMM) รับบริหารนิติบุคคล ในโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่
คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร ศูนย์การค้า ไปจนถึงอาคารสำนักงานCrown Residence (CRD) รับบริหารนิติบุคคล ในโครงการคอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร ศูนย์การค้า ไปจนถึงอาคารสำนักงาน ในระดับลักชัวรี เน้นกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ธุรกิจปลายน้ำ จะเน้นไปที่การให้บริการหลังการขาย
ตัวอย่างบริษัทย่อยในหมวดธุรกิจปลายน้ำ เช่น
UNO Service (UNO) บริการแม่บ้านทำความสะอาด งานซ่อมแซมที่พักอาศัย
และบริการรับเหมาโรยตัว เพื่อทำความสะอาดและซ่อมแซมคอนโดมิเนียมEveryday HAUS เป็นแบรนด์ล่าสุดที่ PRIMO ได้ปั้นในปี 2566
เป็นร้านขายสินค้าไลฟ์สไตล์ และของตกแต่งบ้าน ร้านแรกของเครือ ORIGIN
ทีนี้ เราลองมาดูกันว่า สัดส่วนรายได้ของธุรกิจแต่ละส่วน แบ่งเป็นสัดส่วนมากน้อยแค่ไหน ?
ถ้าแบ่งตามสัดส่วนรายได้ของปี 2565 ทุก ๆ 100 บาท ก็จะแบ่งเป็น..
ธุรกิจต้นน้ำ 14 บาทธุรกิจกลางน้ำ 45 บาทธุรกิจปลายน้ำ 41 บาท
เราลองมาดู รายได้และกำไรของ PRIMO ในช่วงที่ผ่านมากัน
ปี 2563 มีรายได้ 267 ล้านบาท กำไร 40 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้ 490 ล้านบาท กำไร 111 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้ 915 ล้านบาท กำไร 240 ล้านบาท
ครึ่งปีแรกของปี 2566 มีรายได้ 847 ล้านบาท กำไร 180 ล้านบาท
เรียกได้ว่า ทั้งรายได้และกำไร ของ PRIMO เติบโตขึ้นหลายเท่าตัว ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา
แล้วลูกค้าของ PRIMO คือใคร ?
แน่นอนว่าลูกค้าหลักก็คือ แบรนด์บ้านและคอนโดมิเนียมของเครือ ORIGIN
อย่างคอนโดมิเนียม The Origin, Park Origin, Park 24, Hampton และ Knightsbridge
ไปจนถึงโครงการหมู่บ้านจัดสรรอย่าง Britania, Belgravia และ Brighton
แต่นอกจากนี้แล้ว PRIMO ก็ยังมีกลุ่มลูกค้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ในเครือ ORIGIN อีก
อย่างในส่วนของ “ธุรกิจต้นน้ำ” PRIMO ก็ได้รับงานออกแบบ และควบคุมงานก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ จากบริษัทอื่นด้วย เช่น ควบคุมงานก่อสร้าง
คอนโดมิเนียม Groove 3 แห่ง จากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เครือ DIVINE Developmentห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตีมอลล์ เช่น ห้าง Big C สาขาอิสรภาพ
ส่วนของ “ธุรกิจกลางน้ำ” PRIMO ก็ยังรับงานบริหารนิติบุคคล ให้กับเจ้าอื่น ๆ ด้วย อย่างเช่น
โครงการ The Address ของ APโครงการ The Base ของแสนสิริโครงการ The Room ของ Land & Houses
ซึ่งในส่วนของธุรกิจกลางน้ำ ทั้งหมดของ PRI มีลูกค้าที่ไม่ใช่เครือของ Origin กว่า 70%
ส่วนของ “ธุรกิจปลายน้ำ” ก็จะมีทั้งกลุ่ม B2C ซึ่งก็คือ ลูกค้าที่เป็นเจ้าของที่พักอาศัย
ไปจนถึงกลุ่ม B2B ซึ่งก็คือ กลุ่มลูกค้านิติบุคคล
ซึ่งถ้าเรามองดูดี ๆ ก็จะเห็นว่า ส่วนธุรกิจปลายน้ำ คือธุรกิจทำความสะอาดและซ่อมแซม
เป็นธุรกิจรับงานในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ สามารถทำงานได้ทุกวัน และเรียกเก็บเงินจากลูกค้าได้รวดเร็ว
ต่างจากธุรกิจต้นน้ำและกลางน้ำ ซึ่งเป็นธุรกิจรับเหมา และงานนิติบุคคล
จะมีระยะเวลาในการทำงานที่ยาวกว่า และจะต้องเรียกเก็บเงินจากลูกค้าตามสัญญานั่นเอง..
มาถึงตรงนี้ ก็พอสรุปได้ว่า ธุรกิจของเครือ PRIMO
ไม่ได้ทำเพียงแค่ดูแล และบริหารงานนิติบุคคลเพียงอย่างเดียว
แต่ยังทำธุรกิจให้บริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาคาร และที่พักอาศัย
ตั้งแต่งานออกแบบและควบคุมงานก่อสร้าง รับบริหารนิติบุคคล
ไปจนถึงงานซ่อมแซมและทำความสะอาด
จากคอนโดมิเนียมโครงการแรก ที่ครอบครัวจรูญเอก
ได้ปลุกปั้น บริเวณที่ดินชานเมืองแถบแบริ่ง เมื่อ 14 ปีก่อน
มาสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่าง ORIGIN
เท่านั้นยังไม่พอ ORIGIN ก็ยังมี PRIMO ซึ่งเป็นบริษัทบริหารนิติบุคคล และให้บริการต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ แบบครบวงจร ที่กำลังจะเติบโต และกลายมาเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองหลัก ของกลุ่ม ORIGIN ในอนาคต..
References
-รายงานประจำปี 2022 บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น
-Q2/2023 Opportunity day
-Oppday Q2/2023 PRI บมจ.พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น
-https://www.tiscowealth.com/trust-magazine/issue-46/people.html
-https://www.kaohoon.com/news/612477
-https://www.longtunman.com/43838
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.