ตราหัวม้าลาย แบรนด์ที่เป็นภาพจำ ของช้อน หม้อ ปิ่นโต แบบสเตนเลส

ตราหัวม้าลาย แบรนด์ที่เป็นภาพจำ ของช้อน หม้อ ปิ่นโต แบบสเตนเลส | BrandCase
ถ้าให้นึกถึงแบรนด์ที่ทำเครื่องครัวสเตนเลส อย่างเช่น ช้อนกลาง หม้อ หรือปิ่นโต เราจะนึกออกเพียงไม่กี่แบรนด์
และหนึ่งในนั้น ต้องมีแบรนด์ที่ชื่อว่า “ตราหัวม้าลาย”

รู้ไหมว่าสมัยก่อน คนไทยยังไม่นิยมใช้เครื่องครัวที่ทำมาจากสเตนเลส

แต่แบรนด์ตราหัวม้าลาย เป็นเจ้าแรก ๆ ที่บุกเบิกตลาดนี้อย่างจริงจัง จนคนไทยหันมาใช้เครื่องครัวแบบสเตนเลส เหมือนในทุกวันนี้

ปีที่ผ่านมา ธุรกิจของตราหัวม้าลาย มีรายได้ 1,369 ล้านบาท กำไร 164 ล้านบาท

เรื่องราวของ ตราหัวม้าลาย น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะเล่าสรุปเรื่องนี้ให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของเครื่องครัวสเตนเลส ตราหัวม้าลาย เกิดขึ้นในปี 2509

โดยคุณเสถียร ยังวาณิช ที่เริ่มทำธุรกิจรับจ้างทำตู้แช่สเตนเลส และรับจ้างผลิตชุดเครื่องครัวสเตนเลส ให้แก่โรงแรม และสายการบินต่าง ๆ

อยู่มาวันหนึ่งคุณเสถียรคิดขึ้นมาว่า ธุรกิจของเขาจะไม่มีรายได้ ถ้าต้องพึ่งพาออร์เดอร์จากการรับจ้างผลิตให้ลูกค้ารายใหญ่ แต่เพียงอย่างเดียว

เขาจึงมองหาช่องทางรายได้อื่น ด้วยการนำเอาเศษสเตนเลสที่เหลือจากการรับจ้างผลิต มาต่อยอดใช้ประโยชน์อื่น ๆ

สุดท้ายจึงเริ่มต้นด้วยการผลิต “ช้อนสเตนเลส” ในปี 2511 ซึ่งถือเป็นสินค้าตัวแรกที่ทำภายใต้แบรนด์ “ตราหัวม้าลาย”

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องชื่อว่า ตราหัวม้าลาย ?

คุณเสถียรเลือกตราหัวม้าลาย เนื่องจากสมัยก่อนโลโกของตราสินค้าส่วนใหญ่ มักใช้สัญลักษณ์รูปสัตว์เพื่อให้คนจดจำง่าย เห็นรูปแล้วก็พูดชื่อได้เลย

ประกอบกับตอนไปจดทะเบียนตราสินค้า พวกสัตว์อื่น ๆ ถูกใช้จดทะเบียนไปหมดแล้ว
เหลือแต่หัวม้าลายพอดี จึงใช้หัวม้าลายเป็นโลโกตั้งแต่นั้นมา

หลังจากที่ประสบความสำเร็จในประเทศแล้ว
ตราหัวม้าลาย ก็เริ่มขยายออกไปต่างประเทศ เริ่มจากสิงคโปร์เป็นประเทศแรก

จากนั้นก็ค่อยขยายเข้าไปใน มาเลเซีย, เมียนมา, ลาว, กัมพูชา และอีกหลายประเทศกว่า 40 ประเทศ
ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ยุโรป, สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง

ปัจจุบัน แบรนด์ตราหัวม้าลาย เป็นเจ้าใหญ่ในตลาดเครื่องครัวสเตนเลสในไทย

โดยอ้างอิงจาก Forbes ตราหัวม้าลาย ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องครัวสเตนเลสในไทย ประมาณ 50-55%

ที่น่าสนใจคือ จากตอนแรกธุรกิจของตราหัวม้าลาย ทำเพียงแค่ช้อน-ส้อมสเตนเลส

แต่วันนี้สินค้าของตราหัวม้าลายมีหลากหลายขึ้นมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวเรือน

เช่น หม้อต้ม, ปิ่นโต, กระทะ, ทัพพี, กระบวย, ตะหลิว, ที่ลับมีด, หม้อกรอง, ส้อม, ถ้วย, จาน, ถาด

นอกจากนี้ ตราหัวม้าลายยังแตกแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องครัว โดยใช้ชื่อว่า “ESTIO”
ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เจาะตลาดพรีเมียม ตั้งราคาสูง

และแบรนด์ “พระอาทิตย์” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เน้นราคาย่อมเยา เพื่อให้สามารถจับลูกค้าในตลาดได้หลากหลายกลุ่ม

ขณะที่กลุ่มลูกค้าของตราหัวม้าลาย มีหลากหลายตั้งแต่

-กลุ่มครัวเรือน มีสัดส่วน 70% ของยอดขาย

-กลุ่ม HORECA (อุตสาหกรรมด้านอาหารและบริการ ประกอบด้วย โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง)
มีสัดส่วน 20% ของยอดขาย

-กลุ่มสถาบันการศึกษา มีสัดส่วน 10% ของยอดขาย

ผลประกอบการของ บริษัท เสถียรสเตนเลสสตีล จำกัด (มหาชน) เจ้าของสินค้า ตราหัวม้าลาย
ปี 2564 รายได้ 1,394 ล้านบาท กำไร 162 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 1,369 ล้านบาท กำไร 164 ล้านบาท

จากจุดเริ่มต้น จากความต้องการมองหารายได้ช่องทางอื่นให้กับธุรกิจ
โดยการนำเศษสเตนเลสที่เหลือจากการผลิตตู้แช่ให้ลูกค้า มาต่อยอดเป็นช้อนสเตนเลส

วันนี้ ตราหัวม้าลาย กลายเป็นเจ้าตลาดเครื่องครัวสเตนเลส ในไทย..

References
-https://www.zebra-head.com/NTH/Aboutus/Aboutus.asp
-https://forbesthailand.com/people/entrepreneurs/เอกชัย-ยังวาณิช
-http://www.thaifranchisecenter.com/document/show.php?docuID=8164