กลยุทธ์ ฉอยชิว ขายโคนไอศกรีม ให้วอลล์ เคเอฟซี แมคโดนัลด์

กลยุทธ์ ฉอยชิว ขายโคนไอศกรีม ให้วอลล์ เคเอฟซี แมคโดนัลด์ | BrandCase

รู้ไหมว่า ไอศกรีมโคนที่เรากินกัน ไม่ว่าจะของวอลล์, เคเอฟซี, แมคโดนัลด์
มาจากผู้ผลิตรายเดียวกัน ที่ชื่อว่า “ฉอยชิว”

ซึ่ง ฉอยชิว เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตโคนไอศกรีมในไทย ที่ส่งขายให้แบรนด์ร้านอาหารดังทั่วประเทศ

แล้วกลยุทธ์ของ ฉอยชิว ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ

จุดเริ่มต้นของฉอยชิว เริ่มจากการเป็นธุรกิจ SME เล็ก ๆ ที่ผลิตเครื่องจักรขายให้กับบริษัทที่ทำธุรกิจผลิตสบู่ ยา และขนมขบเคี้ยว

แต่หลังจากนั้น คุณสุริยะ ชนะธุรการนนท์ ผู้ก่อตั้งฉอยชิว ก็มีโอกาสเดินทางไปขายของตามต่างจังหวัด

ทำให้เขาพบว่า จริง ๆ แล้ว ธุรกิจไอศกรีมตามต่างจังหวัด ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

แต่แน่นอนว่า การเข้าไปทำธุรกิจไอศกรีมแบบตรง ๆ อาจไม่เหมาะ
เนื่องจากมีแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่มีความพร้อมมากกว่า ทั้งในด้านเงินทุนและประสบการณ์

แต่สินค้าหนึ่งที่เขาเห็นช่องว่าง เพราะไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างก็ต้องใช้
ก็คือ “โคนไอศกรีม”..

พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้เขาตัดสินใจที่จะลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรในโรงงาน เพื่อมาผลิตโคนไอศกรีมแบบเต็มตัว

คุณสุริยะบอกว่า การผลิตโคนไอศกรีมตอนนั้น แทบจะไม่มีคู่แข่งเลย
โดยเฉพาะในช่วงแรกที่เข้าตลาดนั้น ฉอยชิว ถือเป็นผู้ผลิตโคนไอศกรีมเจ้าเดียวที่อยู่ในตลาด

เพราะการกินไอศกรีมด้วยโคน ในแง่ของผู้ผลิตไอศกรีม ณ ตอนนั้น ยังเป็นการเพิ่มความแปลกใหม่ให้แก่ผู้บริโภคด้วย เพราะที่ผ่านมามักกินไอศกรีมแบบแท่งหรือถ้วย กันเท่านั้น

ลูกค้าของฉอยชิวในช่วงแรก ๆ นั้น จะเป็นร้านไอศกรีมกะทิ หรือร้านขายไอศกรีมแบบโฮมเมด

อย่างไรก็ตาม การผลิตโคนไอศกรีมของฉอยชิว บางส่วนจะผลิตด้วยการใช้แรงงานคนไปด้วย จึงประสบปัญหาเรื่องการควบคุมคุณภาพของสินค้าบ้าง

พอเป็นแบบนี้คุณสุริยะจึงเดินทางไปดูงานในต่างประเทศ ที่เกี่ยวกับเครื่องมือ และเครื่องจักรในการผลิตไอศกรีม

หลังจากนั้น จึงนำความรู้เหล่านั้น มาปรับปรุงให้เหมาะสมกับโรงงานของฉอยชิว เพื่อให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพดีขึ้น

หลังจากนั้น สินค้าของฉอยชิวก็ค่อย ๆ เป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ

ในปี 2564 มูลค่าตลาดไอศกรีมในประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท
และในปี 2570 มูลค่าดังกล่าว คาดว่าจะเติบโตไปได้ถึง 17,000 ล้านบาท

ซึ่งถือเป็นโอกาสของฉอยชิว ที่จะยังเติบโตมากขึ้นไปอีกในอนาคต

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังถือเป็นประเทศที่มีการส่งออกไอศกรีม มากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกไอศกรีม มูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท

และมูลค่าทางการตลาดของไอศกรีมทั่วโลก คาดว่าจะเติบโตจาก 3.8 ล้านล้านบาท ในปัจจุบัน ไปสู่ 5.5 ล้านล้านบาท ในปี 2570

โดยปัจจุบัน สินค้าของฉอยชิว เป็นโคนไอศกรีม ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ

-ชูการ์ โคน (Sugar Cone)

-เวเฟอร์โคน (Wafer Cone)

ผลประกอบการของ บริษัท ฉอยชิว จำกัด
ปี 2563 รายได้ 208 ล้านบาท กำไร 9.1 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 221 ล้านบาท ขาดทุน 1.3 ล้านบาท (อาจมีค่าใช้จ่ายรายการพิเศษ)

ครั้งหนึ่งมีคนเคยถามคุณสุริยะว่า
ด้วยความที่เขารู้เรื่องกระบวนการผลิตไอศกรีม ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เขาเคยคิดที่จะเข้ามาผลิตไอศกรีมเองด้วยหรือไม่ ?

คุณสุริยะตอบว่า เขาอยากมุ่งมั่นและขอทำในสิ่งที่เขาถนัดให้ดีที่สุดจะดีกว่า
ซึ่งต้องบอกว่า จริง ๆ แล้วการทำสินค้าออกมาขายอย่างเดียว อย่างโคนไอศกรีม หลายคนอาจมองว่า เสี่ยง แต่ข้อดีก็คือ ทำให้ฉอยชิว สามารถควบคุมคุณภาพทั้งสินค้าและบริการ ได้เป็นอย่างดี

พูดง่าย ๆ คือ สามารถทุ่มเททรัพยากรและโฟกัส ไปกับสิ่งที่ตนเองชำนาญ และยังทำให้ลูกค้ามองว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้านั้น ๆ

จนทำให้ในวันนี้ ถ้านึกถึงผู้นำในการผลิตโคนไอศกรีมรายใหญ่ของประเทศ
ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ฉอยชิว นั่นเอง..

References
-https://e-journal.dip.go.th/dip/images/ejournal/8d790e74b422cafb81549dced75b6ad1.pdf
-https://www.choichew.co.th/our-story
-https://www.bangkokbiznews.com/business/1002297