Dairy Queen ร้านไอศกรีม ที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นเจ้าของ

Dairy Queen ร้านไอศกรีม ที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นเจ้าของ | BrandCase

หลายคนน่าจะรู้จักไอศกรีม Dairy Queen
ที่มีไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ Blizzard เนื้อแน่น ๆ คว่ำถ้วยแล้วก็ยังไม่หก

แต่หลายคนก็น่าจะไม่รู้ว่า เจ้าของ Dairy Queen คือบริษัท Berkshire Hathaway ของนักลงทุนในตำนานอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์

เรื่องราวของ Dairy Queen เป็นมาอย่างไร ?
BrandCase จะเล่าเคสนี้ ที่หลายคนยังไม่รู้ ให้อ่านกัน..

ต้องบอกว่าในสมัยก่อน ไอศกรีมส่วนใหญ่จะมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างหยาบกระด้าง และออกไปทางแข็งร่วน

ในช่วงราว ๆ ปี 1938 มีนักธุรกิจในเมืองอิลลินอย ประเทศสหรัฐอเมริกาคนหนึ่ง ชื่อว่าคุณ JF McCulloughs

เขาคนนี้ มีความหลงใหลในไอศกรีม
และอยากลองทำไอศกรีมแบบใหม่ ๆ ในแบบที่ตัวเองชอบ

โดยไอศกรีมแบบที่เขาชอบ คือไอศกรีมที่มีเนื้อเนียนละเอียด มีความนุ่ม และมีกลิ่นหอมของนม

สุดท้ายเขาและลูกชายก็ไปช่วยกันพัฒนาสูตรไอศกรีมแบบที่ว่านี้ขึ้นมา ซึ่งมันก็คือไอศกรีมแบบที่เรียกกันว่า “ซอฟต์เสิร์ฟ” นั่นเอง

ทำให้เขาทั้งสองคนกลายเป็นผู้คิดค้น ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ เนื้อสัมผัสนุ่ม ๆ หอมกลิ่นนม เป็นคนแรก ๆ ของโลก

ความอร่อยนี้ ไม่ใช่แค่ผู้คิดค้นอย่างคุณ JF McCulloughs และลูกชายที่รู้สึกถูกปากเพียงสองคน

แต่เขาได้ทดลองนำไอศกรีมสูตรนี้ไปฝากขายที่ร้านไอศกรีมของเพื่อนสนิท โดยใช้โปรโมชันบุฟเฟต์ “All You Can Eat for 10 Cents”

ปรากฏว่า ไอศกรีมของพวกเขา ขายหมดถึง 1,600 ถ้วย ภายในเวลา 2 ชั่วโมง

พอเป็นแบบนี้ พวกเขาก็รู้เลยว่า ไอศกรีมสูตรของพวกเขาขายดีแน่ จึงไม่ลังเลที่จะพัฒนาสูตรต่อ

โดยไอศกรีมส่วนใหญ่ในสมัยนั้น จะมีไขมันอยู่มาก ประมาณ 10-18% และต้องแช่ในอุณหภูมิประมาณ -15 องศาเซลเซียส ทำให้เนื้อไอศกรีมที่ออกมานั้นมีความแข็งกระด้าง

แต่เคล็ดลับในการทำไอศกรีมของพวกเขาคือ
ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟสูตรของพวกเขา จะมีไขมันอยู่ที่ประมาณ 3-6% และแช่แข็งอยู่ที่อุณหภูมิประมาณ -4 องศาเท่านั้น
ทำให้เนื้อสัมผัสของไอศกรีมนั้นมีความเนียนนุ่มกว่าไอศกรีมทั่วไป

และด้วยการเน้นใช้ นมวัวเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ไอศกรีมนั้นมีรสชาติหวาน และหอมกลิ่นจากนม

ซึ่งด้วยรสชาติและกลิ่นหอม ที่ออกรสนมชัดเจนนี้
ก็ทำให้ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟของคุณ JF McCulloughs ถูกขนานนามว่าเป็น ราชินีแห่งผลิตภัณฑ์จากนม หรือ Queen of Milk Products

และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อแบรนด์ว่า Dairy Queen นั่นเอง..

Dairy Queen เปิดร้านขายไอศกรีมอย่างเป็นเรื่องเป็นราวได้สำเร็จ ในปี 1940 และเริ่มขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์

ผ่านไปราว 15 ปี ในปี 1955 Dairy Queen มีสาขาทั่วสหรัฐอเมริกา และในแคนาดา รวมกว่า 2,600 สาขา

จนปี 1962 ก็มีการตั้งบริษัทแม่ชื่อว่า International Dairy Queen หรือ IDQ ขึ้นมาดูแลแบรนด์ ที่เริ่มขยายสาขาไปทั่วโลก

มาถึงไฮไลต์สำคัญ คือในปี 1998 IDQ เจ้าของแบรนด์ Dairy Queen ถูกเทกโอเวอร์กิจการไปโดย บริษัท Berkshire Hathaway ที่มี วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็น CEO

ซึ่งวอร์เรน บัฟเฟตต์ ชอบไอศกรีม Dairy Queen เป็นการส่วนตัว และมองว่า Dairy Queen มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีโมเดลแบบแฟรนไชส์ ที่ขยายไปได้ทั่วโลก

โดยอ้างอิงจาก Forbes Berkshire Hathaway ซื้อกิจการ Dairy Queen ไปด้วยมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท

ซึ่งปัจจุบัน Dairy Queen ก็มียังเป็นบริษัทในเครือ Berkshire Hathaway
ที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ยังคงบริหารอยู่

ส่วน Dairy Queen ในประเทศไทยนั้น อยู่ภายใต้การบริหารของเครือไมเนอร์

ซึ่ง Dairy Queen เปิดสาขาแรกในไทย ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อปี พ.ศ. 2539 หรือเมื่อ 27 ปีที่แล้ว นั่นเอง..

References
-https://www.dairyqueenthailand.com/aboutus
-https://en.wikipedia.org/wiki/Dairy_Queen
-https://www.forbes.com/sites/zackfriedman/2019/01/22/warren-buffett-owns-these-7-companies/?sh=1c0a73945f6d&fbclid=IwAR27940moxHJPK_2HK2NLNc-SHty3ySqh52vP4m3CoDtfzlJG8bYhrrx8j8
-http://www.noblestores.com/EarlyDQHistorywrittenbySDN1973