บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถูกคิดเพราะ ไม่อยากให้คนญี่ปุ่น กินขนมปัง
31 ม.ค. 2023
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถูกคิดเพราะ ไม่อยากให้คนญี่ปุ่น กินขนมปัง | BrandCase
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า มาม่า เป็นอาหารที่ถูกคิดขึ้นมา เพราะไม่อยากให้คนญี่ปุ่น กินขนมปัง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า มาม่า เป็นอาหารที่ถูกคิดขึ้นมา เพราะไม่อยากให้คนญี่ปุ่น กินขนมปัง
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต้องย้อนกลับไปในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ตอนนั้นญี่ปุ่น เป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงคราม
จึงถูกบังคับให้ต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ญี่ปุ่นต้องจ่ายค่าเสียหาย ตามที่ฝ่ายชนะสงครามเรียกร้อง ในจำนวนมหาศาล
จึงถูกบังคับให้ต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ญี่ปุ่นต้องจ่ายค่าเสียหาย ตามที่ฝ่ายชนะสงครามเรียกร้อง ในจำนวนมหาศาล
ยังไม่รวมถึงเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และข้าวของแพง อันเป็นผลจากภาวะสงคราม ทำให้คนญี่ปุ่นในตอนนั้น ต้องเข้าแถวรอรับการแจกขนมปังจากรัฐบาล
เรื่องนี้ก็ทำให้คุณอันโด โมโมฟุกุ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัทนิชชิน มีความคิดที่จะทำบะหมี่ หรือ ราเม็น ในรูปแบบที่คนญี่ปุ่น สามารถทำกินเองได้ง่าย ๆ
ที่สำคัญคือ จะต้องสะดวก และราคาถูก
เพื่อเป็นทางเลือกทดแทนการที่คนญี่ปุ่น ต้องกินแค่ขนมปังในตอนนั้น
เพื่อเป็นทางเลือกทดแทนการที่คนญี่ปุ่น ต้องกินแค่ขนมปังในตอนนั้น
โดยพฤติกรรมของคนญี่ปุ่นนั้น ชอบกินราเม็นหรือบะหมี่ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้เขาเชื่อว่า แนวคิดนี้น่าจะไปได้สวย
คุณอันโด เริ่มพัฒนากระบวนการการผลิตเส้นบะหมี่ โดยการทอดและอบแห้ง เพื่อเป็นการถนอมอาหารที่สามารถนำกลับมากินได้อีกครั้ง เมื่อเติมน้ำร้อน
หลังจากที่ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง
ในที่สุด คุณอันโดก็สามารถทำบะหมี่ออกมาขายได้สำเร็จ ในปี 1958
ในที่สุด คุณอันโดก็สามารถทำบะหมี่ออกมาขายได้สำเร็จ ในปี 1958
โดยแบรนด์นั้นมีชื่อว่า “ชิกิ้น ราเม็น”
ในเวลาเพียงไม่นาน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ก็ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของคนญี่ปุ่น
ความนิยมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยังกระจายไปในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย แน่นอนว่า รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย
โดยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เข้ามาในประเทศไทยครั้งแรก ในช่วงปี 1971
โดยแบรนด์แรกที่เข้ามาคือ “ซันวา” ซึ่งมีต้นแบบมาจากบะหมี่ญี่ปุ่น
โดยแบรนด์แรกที่เข้ามาคือ “ซันวา” ซึ่งมีต้นแบบมาจากบะหมี่ญี่ปุ่น
หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์อื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา คือ ยำยำ ไวไว มาม่า
ซึ่งคนไทยก็มักจะนิยมเรียก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดปากว่า “มาม่า” ไปแล้ว
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นต้นกำเนิดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่ก็ต้องบอกว่า ปัจจุบันญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุดในโลก
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นต้นกำเนิดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่ก็ต้องบอกว่า ปัจจุบันญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุดในโลก
แต่เป็น จีน โดยในปี 2021 จีนมีการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสูงกว่า 44,000 ล้านซอง เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีมากกว่า 1,400 ล้านคน
แล้วประเทศที่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต่อหัว มากที่สุดในโลกในปัจจุบัน คือประเทศไหน ?
คำตอบคือ เวียดนาม ที่ในปี 2021 กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เฉลี่ยแล้ว 87 ซอง ต่อคน เลยทีเดียว..
References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Instant_noodles
-https://sites.google.com/site/insantnoodles/home/tn-kaneid-khxng-bahmi-kung-sarecrup
-https://saigoneer.com/saigon-food-culture/25635-vietnam-surpasses-south-korea-as-world-s-no-1-consumer-of-instant-noodles-per-capita’
-https://abcnews.go.com/International/story?id=81946&page=1
-https://en.wikipedia.org/wiki/Instant_noodles
-https://sites.google.com/site/insantnoodles/home/tn-kaneid-khxng-bahmi-kung-sarecrup
-https://saigoneer.com/saigon-food-culture/25635-vietnam-surpasses-south-korea-as-world-s-no-1-consumer-of-instant-noodles-per-capita’
-https://abcnews.go.com/International/story?id=81946&page=1