เรียนรู้กลยุทธ์ Diamond Grains ขายกราโนลา รายได้ 400 ล้าน

เรียนรู้กลยุทธ์ Diamond Grains ขายกราโนลา รายได้ 400 ล้าน

21 ธ.ค. 2022
เรียนรู้กลยุทธ์ Diamond Grains ขายกราโนลา รายได้ 400 ล้าน | BrandCase
คนรักสุขภาพหลายคน น่าจะเคยทาน “กราโนลา” อาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชต่าง ๆ เช่น ข้าวโอ๊ต ถั่ว ผลไม้อบแห้ง เมล็ดพันธุ์ธัญพืช
และถ้าพูดถึงกราโนลา หลายคนน่าจะรู้จัก “Diamond Grains”
จากจุดเริ่มต้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว
มาวันนี้ Diamond Grains สร้างรายได้ มากกว่า 400 ล้านบาท
วันนี้ เรามาศึกษากลยุทธ์สำคัญ ๆ ของ Diamond Grains
ซึ่ง BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
Diamond Grains เกิดจากคุณชนิสรา วงศ์ดีประสิทธิ์ หรือ คุณอูน
และคุณวุฒิกานต์ วงศ์ดีประสิทธิ์ หรือ คุณแพ็ค
ทั้งสองคนเป็นคู่รัก ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจร่วมกัน ตั้งแต่สมัยเรียนระดับมหาวิทยาลัย
ทั้งคู่ผ่านการลองผิด ลองถูก ในการทำธุรกิจหลายอย่าง
จนสุดท้าย ทั้งคู่มองว่า พวกเขาควรทำธุรกิจที่สามารถเติบโตไปได้กับเทรนด์รักษาสุขภาพ
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเชื่อว่า เทรนด์นี้จะไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป แต่จะเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในอนาคต
และทั้งสองคน จึงเลือกที่จะลองทำสิ่งที่เรียกว่า “กราโนลา”
ด้วยการไม่ใช้แป้งสาลี ไม่มีน้ำตาลขัดสี พร้อมทั้งมีส่วนผสมของธัญพืชหลากชนิด เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้แก่ผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ
ในช่วงแรกที่ยังเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ทั้งคุณอูน และคุณแพ็ค ทำเองหมดทุกอย่าง
ตั้งแต่ทำกราโนลาเอง ขายออนไลน์เอง และไปส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าด้วยตัวเอง รวมทั้งเก็บฟีดแบ็กโดยตรงจากคนที่ลอง และลูกค้า
จากวันนั้น Diamond Grains ของทั้งคู่ที่เริ่มต้นจากธุรกิจเล็ก ๆ เติบโตจนสามารถสร้างรายได้หลักร้อยล้านบาทได้ในวันนี้
โดยในปีบัญชี 2565 บริษัท บรันช์ไทม์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ Diamond Grains มีรายได้ 459 ล้านบาท กำไร 90 ล้านบาท
ซึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้ Diamond Grains ประสบความสำเร็จในวันนี้ ก็อย่างเช่น
-กล้าเสนอของใหม่ ที่คนอื่นไม่เคยทำ หรือไม่ได้จริงจัง
การทำธุรกิจอะไรเป็นรายแรกแม้จะมีความเสี่ยง เพราะยังไม่รู้ว่า ลูกค้าจะให้การตอบรับสินค้าของเราหรือไม่
แต่ในแง่ดีก็คือ ยังไม่มีคู่แข่งในอุตสาหกรรมที่ชัดเจน
ตอนที่ทั้งคุณอูนและคุณแพ็ค เริ่มต้นทำ Diamond Grains ตอนนั้นทั้งคู่ยังไม่ได้มีเงินทุนมากนัก
แต่ด้วยความที่ยังไม่มีคู่แข่งในตลาด ทำให้ทั้งคู่ทำการตลาดได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินไปทำการตลาดมากด้วยเช่นกัน
-เลือกสินค้า ที่เติบโตได้อย่างยั่งยืน ในวันข้างหน้า
แม้ว่าในช่วง 10 ปีที่แล้ว กราโนลา จะดูเป็นสินค้าที่ใหม่สำหรับคนไทย แต่ทั้งคุณอูนและคุณแพ็ค เชื่อว่าสินค้าตัวนี้สามารถที่จะเติบโตไปได้กับเทรนด์รักสุขภาพ ที่ตอนนั้นแม้จะเป็นเรื่องใหม่
แต่ทั้งคู่มองว่า จะเป็นเทรนด์ที่เติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเดินหน้าลงมือทำกราโนลาคลีน เพื่อตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพ
คือการเลือกสินค้าด้วยหลักคิดแบบนี้ จะมีส่วนทำให้แบรนด์ขายของได้เรื่อย ๆ และมีโอกาสเติบโตในวันข้างหน้า
ซึ่งมันดีกว่าการขายสินค้าตามกระแส ที่อาจจะมียอดขายดีในวันนี้ แต่ในอนาคตพอคนเลิกสนใจ ก็ไปต่อไม่ได้
-สร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ให้ได้
คุณอูนและคุณแพ็ค ให้ความสำคัญกับการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์
โดยอาศัยช่องทางโซเชียลมีเดีย, LINE และยังให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ ซึ่งถือเป็นหน้าร้านที่สำคัญของ Diamond Grains
ทั้งคู่มองว่า การมีเว็บไซต์ที่ระบุเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของร้านค้า รายละเอียดสินค้า ข่าวสาร ที่ตั้งสาขา และช่องทางในการติดต่อ
นอกจากจะแสดงให้เห็นความเป็นตัวตนของธุรกิจอย่างชัดเจนแล้ว ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อถือในตัวแบรนด์มากขึ้นด้วย
-สื่อสารเรื่องราวต่าง ๆ ของแบรนด์ ให้ลูกค้ารับรู้อยู่เสมอ
การบอกเล่าเรื่องราวของตัวสินค้าของ Diamond Grains ผ่านช่องทางต่าง ๆ นั้น จะมุ่งเน้นไปที่การสื่อสารมากกว่าการโฆษณา ด้วยการเล่าเรื่องอย่างเรียบง่าย และตรงไปตรงมา
นอกจากการเล่าเรื่องตัวสินค้าแล้ว Diamond Grains ยังมีการสื่อสารเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ
เช่น การรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ มีการชวนลูกค้าผู้ติดตามเพจ มาเล่นเกม
และคุณอูน ชนิสรา ก็ชอบสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียส่วนตัวในหลาย ๆ รูปแบบ
โดยเน้นความสนุกสนาน เป็นกันเอง และมักจะสอดแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ และสินค้าของแบรนด์เข้าไปในแต่ละคอนเทนต์ด้วย
ซึ่งกลยุทธ์นี้ จะช่วยสร้างความสนิทสนม ความเป็นกันเอง และทำให้ลูกค้ามองว่า Diamond Grains เปรียบเสมือนเพื่อนที่ใกล้ชิดกับลูกค้านั่นเอง
และนี่คือเรื่องราวของ Diamond Grains ที่เริ่มต้นจากธุรกิจเล็ก ๆ
จนเติบโตกลายมาเป็นกราโนลาคลีนรายใหญ่ของไทย ที่สร้างรายได้กว่า 400 ล้านบาท ในวันนี้..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.