สรุปเส้นทาง จากล้มเหลว สู่สำเร็จ ของช็อกโกแลต Hershey’s

สรุปเส้นทาง จากล้มเหลว สู่สำเร็จ ของช็อกโกแลต Hershey’s | BrandCase

แบรนด์ช็อกโกแลต Hershey’s เป็นหนึ่งในบริษัทช็อกโกแลตรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นบริษัทที่มีรายได้จากธุรกิจขนมหวาน มากกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี

แต่รู้หรือไม่ว่า กว่าจะโด่งดังได้ขนาดนี้ ผู้ก่อตั้งเคยเป็นเด็กที่ไม่ชอบการเรียนหนังสือ ไม่ชอบไปโรงเรียน และเคยทำธุรกิจล้มเหลวมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

แล้วเรื่องราวกว่าที่จะมาเป็นแบรนด์ช็อกโกแลต Hershey’s ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างไร ?
BrandCase จะเล่าให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ

อาณาจักรของ Hershey’s เริ่มต้นมาจากชายที่มีชื่อว่า มิลตัน เฮอร์ชีย์

มิลตัน เฮอร์ชีย์ เกิดในครอบครัวเกษตรกร แต่เพราะธุรกิจฟาร์มของครอบครัวเจ๊งไม่เป็นท่า ทำให้ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ได้ราบรื่นนัก แถมยังต้องย้ายเมืองตามครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง

อีกทั้งตอนเด็ก ๆ เฮอร์ชีย์ เป็นคนที่ไม่ชอบการเรียน และไม่ชอบการไปโรงเรียน เลยทำให้เขาไม่มีโอกาสได้เรียนสูงมากนัก บวกกับฐานะทางการเงินที่ย่ำแย่ สุดท้ายเขาก็ออกจากโรงเรียนเพื่อมาหางานทำ

ซึ่งงานแรกที่เขาทำก็คือ งานในโรงพิมพ์ แต่เพราะความซุ่มซ่าม ทำหมวกตกลงไปในเครื่องพิมพ์ เขาจึงถูกไล่ออก

หลังจากนั้น เฮอร์ชีย์ เริ่มเข้าสู่วงการขนมหวาน ด้วยการเป็นพนักงานร้านไอศกรีมชื่อ Royer's Ice Cream Parlor and Garden ในรัฐเพนซิลเวเนีย

หลังจากทำงานได้ประมาณ 4 ปี เฮอร์ชีย์ก็ได้ออกมาเปิดร้านขายขนมเป็นของตัวเอง ในปี 1876 ซึ่งในตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น

ถึงแม้ขนมของเฮอร์ชีย์จะขายดีมากก็ตาม แต่เพราะยังขาดความรู้และประสบการณ์ด้านธุรกิจ ทำให้ร้านขนมของเขาทำกำไรไม่ได้ และต้องปิดกิจการลงในที่สุด..

เฮอร์ชีย์ ต้องกลับไปทำงานที่โรงงานขนมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นโรงงานขนมที่ผลิตคาราเมล (Caramel) ขาย

เขาเริ่มเก็บเกี่ยวความรู้และวิธีทำคาราเมล ก่อนที่จะกลับเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการอีกครั้ง ด้วยการเปิดร้านขนมชื่อ Hershey’s Fine Candies ที่นิวยอร์ก ในปี 1883 แต่สุดท้ายธุรกิจก็ล้มเหลวอีกตามเคย..

แม้จะล้มเหลวจากการทำธุรกิจอยู่หลายครั้ง แต่เฮอร์ชีย์ก็ไม่เคยยอมแพ้

จากการทำงานในโรงงานผลิตคาราเมล ทำให้เฮอร์ชีย์มีความรู้เรื่องสูตรในการทำคาราเมลเป็นอย่างดี
นอกจากนี้เขายังได้เรียนรู้การทำธุรกิจอีกเรื่องคือ การขายขนมให้ร้านอาหารหรือโรงแรม สามารถทำเงินได้มากกว่าการขายให้ลูกค้าแบบรายคน

ทำให้เขาตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจใหม่อีกครั้ง..
นั่นคือโรงงานผลิตคาราเมล ที่ขายดิบขายดีจนถึงขั้นส่งออกไปขายยังประเทศอังกฤษ และก่อตั้งบริษัท Lancaster Caramel Company ขึ้นที่เมืองแลงแคสเตอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ในปี 1886

โดยผลิตภัณฑ์ตัวแรกของบริษัท คือ ลูกอมคาราเมล “Hershey’s Crystal A” ซึ่งนับว่าเป็นเจ้าแรกที่มีการใช้นมสดในการทำคาราเมล

ที่สำคัญ Lancaster Caramel Company กลายเป็นธุรกิจแรกของ มิลตัน เฮอร์ชีย์ ที่ประสบความสำเร็จ และสร้างชื่อเสียงให้กับเขา จนกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในแลงแคสเตอร์ในตอนนั้น

แต่ความสำเร็จของ เฮอร์ชีย์ ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้
เมื่อเขาได้เข้าร่วมงานนิทรรศการ World's Columbian Exposition ที่เมืองชิคาโก ในปี 1893

และที่งานนี้เอง ทำให้เขาได้เจอกับเครื่องจักรทำช็อกโกแลตของบริษัท J.M. Lehman Company จากประเทศเยอรมนี เป็นครั้งแรก

มิลตัน เฮอร์ชีย์ เริ่มคิดแล้วว่าธุรกิจผลิตคาราเมลที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้น เป็นแค่กระแสชั่วคราว แต่ช็อกโกแลตต่างหาก ที่จะได้รับความนิยมอย่างถาวร แถมตลาดช็อกโกแลตยังใหญ่กว่าตลาดคาราเมลมาก ๆ

เขาจึงตัดสินใจขายธุรกิจผลิตคาราเมลของเขา (Lancaster Caramel Company) ในมูลค่า 33 ล้านบาท ณ เวลานั้น ให้กับบริษัท American Caramel Company

เพื่อนำเงินมาก่อตั้งบริษัทช็อกโกแลตที่มีชื่อว่า “Hershey Chocolate Co.” ในปี 1894
โดยผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทคือ Hershey’s Cocoa หรือ โกโก้แบบกระป๋อง

ต่อมาบริษัทก็ได้สร้างโรงงานแปรรูปนม (Milk-Processing Plant)
เพื่อที่จะได้สร้างสรรค์และปรับแต่งสูตรช็อกโกแลตนม ของตัวเองได้ตามที่ต้องการ

ในปี 1900 บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท และทำให้แบรนด์ Hershey’s เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ผลิตภัณฑ์นั้นคือ “Hershey’s Milk Chocolate Bars” หรือ ช็อกโกแลตนมชนิดแท่ง

หลังจาก Hershey’s Milk Chocolate Bars ออกสู่ตลาด ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนทำให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ภายใต้แบรนด์ Hershey’s ออกสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงเพิ่มแบรนด์ใหม่ ๆ ทั้งจากการสร้างเอง และการเข้าซื้อกิจการอื่น

ทำให้ปัจจุบัน Hershey’s มีแบรนด์ที่บริหารอยู่กว่า 90 แบรนด์ และทำตลาดใน 60 ประเทศทั่วโลก

โดยผลประกอบการย้อนหลังของ The Hershey Company เป็นดังนี้

ปี 2019 มีรายได้ 284,003 ล้านบาท กำไร 40,884 ล้านบาท
ปี 2020 มีรายได้ 289,816 ล้านบาท กำไร 45,472 ล้านบาท
ปี 2021 มีรายได้ 319,034 ล้านบาท กำไร 52,542 ล้านบาท

จากขนาดรายได้หลักแสนล้านบาทนี้เอง ทำให้ปัจจุบัน Hershey’s ขึ้นเป็นบริษัทขนมหวานที่ทำรายได้มากที่สุด
เป็นอันดับ 3 ของโลก

และนี่คือเรื่องราวของ มิลตัน เฮอร์ชีย์ ชายที่เกิดมาในครอบครัวเกษตรกรที่ยากจน และการเริ่มต้นธุรกิจที่มีแต่ความล้มเหลว

แต่เพราะความไม่ยอมแพ้ ผสมเข้ากับความรู้และประสบการณ์ ที่ได้จากความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหล่านั้น ที่ทำให้ มิลตัน เฮอร์ชีย์ กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

ถึงแม้วันนี้ มิลตัน เฮอร์ชีย์ จะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม แต่ช็อกโกแลตของเขา ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ช็อกโกแลต ที่คนทั้งโลกหลงรัก..

References
-https://www.hersheyland.com/about/history.html
-https://hersheyarchives.org/encyclopedia-tag/lancaster-pa/
-https://www.thehersheycompany.com/en_us/home/about-us/the-company.html
-https://www.marketthink.co/19995
-https://www.blockdit.com/posts/5f566a5eb68eab0ca03ebb81
-https://en.wikipedia.org/wiki/The_Hershey_Company
-https://en.wikipedia.org/wiki/Lancaster_Caramel_Company
-https://en.wikipedia.org/wiki/Kit_Kat
-https://finance.yahoo.com/quote/HSY/financials?p=HSY
-https://www.value.today/world-top-companies/chocolate-confectionery