สรุปเทคนิค บริหารทีม ฉบับผู้นำสาย Introvert
23 ม.ค. 2022
สรุปเทคนิค บริหารทีม ฉบับผู้นำสาย Introvert | THE BRIEFCASE
คน Introvert คือ คนที่ชอบอยู่กับตัวเอง ชอบเก็บตัวเงียบ ๆ มากกว่าเข้าสังคม ชอบอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง หรือคนที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง
พอเป็นแบบนี้ จุดเด่นของคนในกลุ่มนี้ ก็มักจะเป็น
- ชอบตั้งใจฟัง
- ใจเย็น
- แล้วค่อยตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ทำให้ในยุคนี้เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่า
“คน Introvert ก็เป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่แพ้คน Extrovert”
แล้วเราเคยสงสัยกันไหมว่า กว่าคนประเภท Introvert จะมาเป็นผู้นำที่ดีได้นั้น เขามีวิธีการบริหารกันอย่างไร ?
วันนี้ THE BRIEFCASE จะขอหยิบยกเอาเทคนิคการบริหารงาน ในแบบฉบับผู้นำสาย Introvert มาให้ดู เพื่อที่เราจะได้เห็นภาพว่า จุดเด่นของคนประเภท Introvert ที่ว่ามา สามารถนำมาพัฒนาจนกลายมาเป็นจุดแข็งในการบริหารทีมได้
1. ตั้งใจรับฟัง และมีความเห็นอกเห็นใจ
ผู้นำสาย Introvert มักจะมีอีกแครักเตอร์เด่น ๆ ก็คือ การเป็นผู้ฟังที่ดี โดยพวกเขารับฟังในสิ่งที่คนอื่นพูด
และในสังคมการทำงาน การรับฟัง ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน และเป็นผลทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น และการรับฟังให้มาก ยังช่วยให้เราสามารถหาแนวทางที่ดีที่สุดได้
นอกจากนี้ผู้นำสาย Introvert มักจะซึมซับรายละเอียดต่าง ๆ ของข้อมูล พร้อมกับเปิดรับความคิดเห็นจากพนักงานได้มากกว่าผู้นำในสาย Extrovert อีกด้วย ทำให้พนักงานได้มีพื้นที่การทำงาน และอิสระทางความคิดในการเสนอไอเดียมากขึ้น
ซึ่งเราสามารถเห็นได้จากการทำงานของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่ดูใจเย็น เน้นรับฟังทุกความคิดเห็น แต่เราจะไม่เห็นการกระทำแบบนี้เท่าไรนักในการทำงานของผู้นำสาย Extrovert ที่มักจะใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่ต้องการ
2. ใจเย็นและมีกระบวนการตัดสินใจที่ดี
การตัดสินใจของผู้นำเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารองค์กร เพราะหากการตัดสินใจนั้นมีความผิดพลาด อาจนำมาซึ่งความเสียหายเป็นมูลค่าหลายล้านบาทเลยทีเดียว
ผู้นำสาย Introvert ก็มักมีการตัดสินใจที่ค่อนข้างเป็นแบบแผน และไม่ตัดสินใจจากความใจร้อน พวกเขามักจะฟัง และรวบรวมความคิดเห็นที่หลากหลายก่อน แล้วถึงตัดสินใจ ทำให้มีการคิดวิเคราะห์ปัญหา จากข้อมูลที่ได้รับมามากขึ้น และทำให้สามารถตอบสนองต่อปัญหาได้รอบคอบเป็นอย่างดี
ยกตัวอย่างเช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่มีบุคลิกนิ่ง ๆ เงียบ ๆ จนถึงขั้นต้องเข้าคอร์สอบรมการพูดคุยกับคนในสังคม
แต่ประโยชน์จากความใจเย็น ทำให้ บัฟเฟตต์ มีเวลาได้คิดทบทวนมากพอและรอบคอบมากขึ้น จนทำให้เขากลายเป็นนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจะเห็นได้จากกลยุทธ์การลงทุนที่ไม่ได้ไหลไปตามกระแสของโลกในทันที แต่เขามักจะมองหาข้อมูลที่หลากหลาย ครบถ้วน และรอจังหวะเวลาเพื่อให้แน่ใจ ว่าสิ่งที่เขาจะลงทุน สามารถสร้างผลตอบแทนให้เขาในอนาคตได้หรือไม่ ?
3. โดดเด่นในเรื่อง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้เข้ากับสถานการณ์
แน่นอนว่าทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างอาจช่วยให้สามารถนำพาองค์กรรอดพ้นจากวิกฤติครั้งใหญ่ได้
ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้นำอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการปรับเปลี่ยนในองค์กรอีกด้วย
เช่น ประธานบริษัท A ยอมที่จะปรับการทำงานของพนักงานให้อยู่ในรูปแบบ Bubble and Seal
(จัดกลุ่มคนที่ทำงานเงื่อนไขเหมือนกันให้ทำงานด้วยกัน และไม่ข้ามไปเจอกับกลุ่มอื่น) หรือ Work From Home (การทำงานจากที่บ้าน) ในช่วงการระบาดของโควิด 19 เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
โดยทั่วไปแล้วผู้นำไม่ว่าจะเป็นสาย Introvert หรือ Extrovert ต่างต้องปรับเปลี่ยนบริบท รูปแบบการบริหาร หรือรูปแบบการทำงานของคนในองค์กร ให้เข้ากับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาอยู่เสมอ
แต่ความแตกต่างของการปรับเปลี่ยนในตัวผู้นำสาย Introvert นั้น จะค่อนข้างแตกต่างในเรื่องของความใจกว้างในการปรับเปลี่ยน เนื่องจากพื้นฐานของคน Introvert นั้น พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากคนอื่น
จึงมีแนวโน้มทำให้ผู้นำสายนี้มีการเปลี่ยนแปลง หรือยอมที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่าง ง่ายกว่า ผู้นำสาย Extrovert นั่นเอง
4. ให้เครดิตกับทีมงาน
ไม่แปลกที่พนักงานหลายคนจะชอบทำงานกับผู้นำสาย Introvert เพราะเมื่อเวลาที่คนในองค์กรทำผลงานได้ดี ผู้นำสายนี้ก็มักจะยกเครดิตให้ทีมงานอยู่เสมอ
อย่างเช่น บิลล์ เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO Microsoft ซึ่งเขามักจะให้เครติดกับคนที่สร้างผลงานได้ดีอยู่เสมอ เรียกได้ว่าได้ใจพนักงานไปเต็ม ๆ
สำหรับหลายคนอาจจะดูเป็นเรื่องไม่สำคัญ ที่จะเอ่ยชื่อของเหล่าทีมงาน แต่นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ทำให้เห็นว่า ผู้นำกำลังให้ความสำคัญกับคนในทีม
เพราะการที่องค์กรจะดึงคนเก่ง ๆ ให้อยู่ในทีมได้ ไม่ได้มีแค่เรื่องของเงินเดือนเท่านั้น แต่เรื่องที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยอย่างการให้เครดิต หรือการชื่นชมต่อคนที่ทำผลงานได้ดี ก็เป็นอีกวิธีที่จะซื้อใจพนักงานได้เหมือนกัน
ทั้งหมดนี้คือหนึ่งในเทคนิคการบริหารทีม ที่เราสามารถเห็นได้ชัดจากผู้นำสาย Introvert
และหวังว่าจะทำให้เหล่าคน Introvert ได้นำเอาจุดเด่นนี้ มาปรับใช้กับการบริหารทีมในแบบฉบับของตัวเองได้
References
-https://www.linkedin.com/pulse/extroverts-always-best-leaders-can-introverts-fact-make-van-praet/
-https://gradesfixer.com/free-essay-examples/a-study-of-the-management-style-of-mark-zuckerberg/
-https://introvertdear.com/news/united-states-presidents-who-were-introverts/
-https://www.longtunman.com/30967
-https://www.forbes.com/sites/karlmoore/2021/05/26/how-introverted-leaders-can-be-better-managers-for-their-extroverted-employees/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Abraham_Lincoln
-https://www.archives.gov/exhibits/featured-documents/emancipation-proclamation
-https://www.huffpost.com/entry/warren-buffet
คน Introvert คือ คนที่ชอบอยู่กับตัวเอง ชอบเก็บตัวเงียบ ๆ มากกว่าเข้าสังคม ชอบอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง หรือคนที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง
พอเป็นแบบนี้ จุดเด่นของคนในกลุ่มนี้ ก็มักจะเป็น
- ชอบตั้งใจฟัง
- ใจเย็น
- แล้วค่อยตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ทำให้ในยุคนี้เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่า
“คน Introvert ก็เป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่แพ้คน Extrovert”
แล้วเราเคยสงสัยกันไหมว่า กว่าคนประเภท Introvert จะมาเป็นผู้นำที่ดีได้นั้น เขามีวิธีการบริหารกันอย่างไร ?
วันนี้ THE BRIEFCASE จะขอหยิบยกเอาเทคนิคการบริหารงาน ในแบบฉบับผู้นำสาย Introvert มาให้ดู เพื่อที่เราจะได้เห็นภาพว่า จุดเด่นของคนประเภท Introvert ที่ว่ามา สามารถนำมาพัฒนาจนกลายมาเป็นจุดแข็งในการบริหารทีมได้
1. ตั้งใจรับฟัง และมีความเห็นอกเห็นใจ
ผู้นำสาย Introvert มักจะมีอีกแครักเตอร์เด่น ๆ ก็คือ การเป็นผู้ฟังที่ดี โดยพวกเขารับฟังในสิ่งที่คนอื่นพูด
และในสังคมการทำงาน การรับฟัง ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน และเป็นผลทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น และการรับฟังให้มาก ยังช่วยให้เราสามารถหาแนวทางที่ดีที่สุดได้
นอกจากนี้ผู้นำสาย Introvert มักจะซึมซับรายละเอียดต่าง ๆ ของข้อมูล พร้อมกับเปิดรับความคิดเห็นจากพนักงานได้มากกว่าผู้นำในสาย Extrovert อีกด้วย ทำให้พนักงานได้มีพื้นที่การทำงาน และอิสระทางความคิดในการเสนอไอเดียมากขึ้น
ซึ่งเราสามารถเห็นได้จากการทำงานของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่ดูใจเย็น เน้นรับฟังทุกความคิดเห็น แต่เราจะไม่เห็นการกระทำแบบนี้เท่าไรนักในการทำงานของผู้นำสาย Extrovert ที่มักจะใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่ต้องการ
2. ใจเย็นและมีกระบวนการตัดสินใจที่ดี
การตัดสินใจของผู้นำเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารองค์กร เพราะหากการตัดสินใจนั้นมีความผิดพลาด อาจนำมาซึ่งความเสียหายเป็นมูลค่าหลายล้านบาทเลยทีเดียว
ผู้นำสาย Introvert ก็มักมีการตัดสินใจที่ค่อนข้างเป็นแบบแผน และไม่ตัดสินใจจากความใจร้อน พวกเขามักจะฟัง และรวบรวมความคิดเห็นที่หลากหลายก่อน แล้วถึงตัดสินใจ ทำให้มีการคิดวิเคราะห์ปัญหา จากข้อมูลที่ได้รับมามากขึ้น และทำให้สามารถตอบสนองต่อปัญหาได้รอบคอบเป็นอย่างดี
ยกตัวอย่างเช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่มีบุคลิกนิ่ง ๆ เงียบ ๆ จนถึงขั้นต้องเข้าคอร์สอบรมการพูดคุยกับคนในสังคม
แต่ประโยชน์จากความใจเย็น ทำให้ บัฟเฟตต์ มีเวลาได้คิดทบทวนมากพอและรอบคอบมากขึ้น จนทำให้เขากลายเป็นนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจะเห็นได้จากกลยุทธ์การลงทุนที่ไม่ได้ไหลไปตามกระแสของโลกในทันที แต่เขามักจะมองหาข้อมูลที่หลากหลาย ครบถ้วน และรอจังหวะเวลาเพื่อให้แน่ใจ ว่าสิ่งที่เขาจะลงทุน สามารถสร้างผลตอบแทนให้เขาในอนาคตได้หรือไม่ ?
3. โดดเด่นในเรื่อง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้เข้ากับสถานการณ์
แน่นอนว่าทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างอาจช่วยให้สามารถนำพาองค์กรรอดพ้นจากวิกฤติครั้งใหญ่ได้
ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้นำอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการปรับเปลี่ยนในองค์กรอีกด้วย
เช่น ประธานบริษัท A ยอมที่จะปรับการทำงานของพนักงานให้อยู่ในรูปแบบ Bubble and Seal
(จัดกลุ่มคนที่ทำงานเงื่อนไขเหมือนกันให้ทำงานด้วยกัน และไม่ข้ามไปเจอกับกลุ่มอื่น) หรือ Work From Home (การทำงานจากที่บ้าน) ในช่วงการระบาดของโควิด 19 เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
โดยทั่วไปแล้วผู้นำไม่ว่าจะเป็นสาย Introvert หรือ Extrovert ต่างต้องปรับเปลี่ยนบริบท รูปแบบการบริหาร หรือรูปแบบการทำงานของคนในองค์กร ให้เข้ากับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาอยู่เสมอ
แต่ความแตกต่างของการปรับเปลี่ยนในตัวผู้นำสาย Introvert นั้น จะค่อนข้างแตกต่างในเรื่องของความใจกว้างในการปรับเปลี่ยน เนื่องจากพื้นฐานของคน Introvert นั้น พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากคนอื่น
จึงมีแนวโน้มทำให้ผู้นำสายนี้มีการเปลี่ยนแปลง หรือยอมที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่าง ง่ายกว่า ผู้นำสาย Extrovert นั่นเอง
4. ให้เครดิตกับทีมงาน
ไม่แปลกที่พนักงานหลายคนจะชอบทำงานกับผู้นำสาย Introvert เพราะเมื่อเวลาที่คนในองค์กรทำผลงานได้ดี ผู้นำสายนี้ก็มักจะยกเครดิตให้ทีมงานอยู่เสมอ
อย่างเช่น บิลล์ เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO Microsoft ซึ่งเขามักจะให้เครติดกับคนที่สร้างผลงานได้ดีอยู่เสมอ เรียกได้ว่าได้ใจพนักงานไปเต็ม ๆ
สำหรับหลายคนอาจจะดูเป็นเรื่องไม่สำคัญ ที่จะเอ่ยชื่อของเหล่าทีมงาน แต่นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ทำให้เห็นว่า ผู้นำกำลังให้ความสำคัญกับคนในทีม
เพราะการที่องค์กรจะดึงคนเก่ง ๆ ให้อยู่ในทีมได้ ไม่ได้มีแค่เรื่องของเงินเดือนเท่านั้น แต่เรื่องที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยอย่างการให้เครดิต หรือการชื่นชมต่อคนที่ทำผลงานได้ดี ก็เป็นอีกวิธีที่จะซื้อใจพนักงานได้เหมือนกัน
ทั้งหมดนี้คือหนึ่งในเทคนิคการบริหารทีม ที่เราสามารถเห็นได้ชัดจากผู้นำสาย Introvert
และหวังว่าจะทำให้เหล่าคน Introvert ได้นำเอาจุดเด่นนี้ มาปรับใช้กับการบริหารทีมในแบบฉบับของตัวเองได้
References
-https://www.linkedin.com/pulse/extroverts-always-best-leaders-can-introverts-fact-make-van-praet/
-https://gradesfixer.com/free-essay-examples/a-study-of-the-management-style-of-mark-zuckerberg/
-https://introvertdear.com/news/united-states-presidents-who-were-introverts/
-https://www.longtunman.com/30967
-https://www.forbes.com/sites/karlmoore/2021/05/26/how-introverted-leaders-can-be-better-managers-for-their-extroverted-employees/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Abraham_Lincoln
-https://www.archives.gov/exhibits/featured-documents/emancipation-proclamation
-https://www.huffpost.com/entry/warren-buffet