"5W2H" วิธีตั้งคำถาม ที่ช่วยให้ได้คำตอบสำคัญ ครบทุกด้าน
13 ส.ค. 2021
"5W2H" วิธีตั้งคำถาม ที่ช่วยให้ได้คำตอบสำคัญ ครบทุกด้าน | THE BRIEFCASE
จุดเริ่มต้นของการตั้งคำถามที่ดี หลายครั้งก็ทำให้เราพบหนทางสู่ความสำเร็จได้ รวมทั้งหนทางแก้ปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งก็มีหนึ่งเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้เราสามารถตั้งคำถามได้ตรงประเด็น ได้ข้อมูลครบถ้วน และสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ ที่รู้จักกันในชื่อว่า “5W2H”
5W2H คืออะไร ? THE BRIEFCASE จะพาไปหาคำตอบกัน
5W2H คือเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถรวบรวมข้อมูล ด้วยวิธีการตั้งคำถาม
ซึ่งข้อมูลที่รวบรวมมาได้นั้น ทำให้เรารู้ข้อเท็จจริง เข้าใจเหตุผลเบื้องหลัง รวมทั้งความเป็นมาของเหตุการณ์นั้น ๆ ทั้งหมดนี้จึงช่วยให้เราวิเคราะห์และแก้ปัญหาพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามต่อมาคือ 5W2H ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง..
5W คือ Who (ใคร), What (อะไร), Where (ที่ไหน), When (เมื่อไร) และ Why (ทำไม)
2H คือ How (ทำอย่างไร) และ How Much (ใช้เงินเท่าไรหรือได้ผลตอบแทนเท่าไร)
สมมติว่าเราถูกมอบหมายให้ทำการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ เรื่องการขายผลิตภัณฑ์ออกใหม่ให้แก่บริษัท โดยเราตั้งใจจะรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือ 5W2H ดังนี้
1. Who: ใคร
เป็นการตั้งคำถามว่า ใครเป็นผู้ที่จะมาใช้ผลิตภัณฑ์ออกใหม่ของบริษัท หรือใครคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เรากำลังมองหา กลุ่มเป้าหมายเป็นเพศอะไร อายุเท่าไร มีรายได้เท่าไร พฤติกรรมการบริโภคสินค้าเป็นอย่างไร เพราะเราต้องจำไว้ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าของธุรกิจเราได้
การระบุว่าใครคือลูกค้า จะช่วยทำให้เราเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ วางแผนทำการตลาด ได้อย่างเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
2. What: อะไร
เมื่อได้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว อันดับถัดมาที่ต้องคิดคือ ลูกค้าต้องการสินค้าอะไร หรือสินค้าอะไรที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
เพราะในบางครั้งสินค้าที่เรากำลังคิดอยู่ อาจเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตลาดก็ได้
ดังนั้น เราควรตั้งคำถามเพื่อนำไปสู่คำตอบให้ได้ว่า อะไรทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากสินค้า หรือบริการของคู่แข่ง
3. Where: ที่ไหน
การตั้งคำถามที่ดีจะช่วยรวบรวมข้อมูลได้ว่า ลูกค้าเป้าหมายอยู่ที่ไหน อยู่ในตัวเมืองหรือต่างจังหวัด อยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลโดยตรงต่อการวางแผนระบบโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ
เช่นเดียวกับการตั้งคำถามเพื่อติดตามพฤติกรรมผู้บริโภค เมื่อกลุ่มเป้าหมายหันมาใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้น ข้อมูลที่รวบรวมมาได้ควรเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนโปรโมตสินค้า การทำโฆษณา การตลาด
เพื่อสร้างโอกาสที่จะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
4. When: เมื่อไร
ข้อมูลจากคำถามที่ว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเราต้องการสินค้าเมื่อไร ? จะนำมาซึ่งประโยชน์ของการจัดสรรทรัพยากร รวมทั้ง การวางแผนการผลิตสินค้า การกำหนดกลยุทธ์ทางด้านการตลาด
เช่น การวางแผนกำลังคน การกำหนดระยะเวลาทดสอบสินค้าในตลาด การลดราคาสินค้า การแถมสินค้า หรือการแจกสินค้า
เมื่อธุรกิจออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ถูกจังหวะเวลา ย่อมช่วยทำให้ธุรกิจสามารถขายสินค้าและบริการประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
5. Why: ทำไม
อีกหนึ่งคำถามสำคัญที่เราควรให้ความสำคัญก็คือ “ทำไมลูกค้าต้องมาซื้อสินค้าของเรา” แทนที่จะซื้อจากคู่แข่ง ซึ่งการตั้งคำถามแบบนี้ จะช่วยให้เรามองสินค้าของเราจากมุมของลูกค้า ไม่ใช่มุมจากธุรกิจเรา
หรือแม้แต่ ทำไมเราจึงเลือกที่จะผลิตสินค้าประเภทนี้ให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย การตั้งคำถามแบบนี้ จะช่วยให้เราสามารถค้นพบข้อมูลบางอย่างที่เราอาจมองข้ามไปก่อนหน้านี้ได้
6. How: อย่างไร
ตั้งคำถามเพื่อหาข้อมูลให้ได้ว่า ธุรกิจของเราจะทำอย่างไร เพื่อให้สามารถขายผลิตภัณฑ์ออกใหม่นี้ ให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งในขั้นตอนนี้ ยังรวมไปถึงแนวทางที่จะเข้าถึงลูกค้าของเราได้ด้วยวิธีไหน ทำอย่างไรให้สามารถขายสินค้าได้ตามช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้
7. How Much : ผลตอบแทน/ใช้เงินทุนเท่าไร
ข้อสุดท้าย ที่มีความสำคัญไม่แพ้ข้ออื่น ๆ ก็คือ ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไร เพราะแม้จะทราบข้อมูลทั้งหมด แต่ถ้าขาดเงินลงทุนมาสนับสนุน การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้
ดังนั้น หากเรารู้ว่าจะใช้เงินลงทุนเท่าไร ก็จะวิเคราะห์ต่อไปได้ว่า ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับกลับมานั้น คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปหรือไม่
แต่ก็ต้องหมายเหตุว่า บางครั้งผลตอบแทนที่ได้รับกลับมา อาจไม่ได้อยู่ในรูปตัวเงินเสมอไป
เช่น ถ้าโรงงานของเรากำลังจะทำโครงการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ
ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับกลับมาในรูปตัวเงินไม่คุ้มค่า
แต่สำหรับประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
กรณีนี้ก็ถือว่าโครงการดังกล่าว ก็สามารถสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาได้ เช่นกัน
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า เครื่องมือที่ชื่อว่า 5W2H นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่น่าสนใจ สำหรับช่วยในการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจครบรอบด้าน ได้แบบตรงประเด็นผ่านการตั้งคำถาม 7 ข้อนั่นเอง..
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Five_Ws
-https://www.thinkleansixsigma.com/article/what-is-5w2h
จุดเริ่มต้นของการตั้งคำถามที่ดี หลายครั้งก็ทำให้เราพบหนทางสู่ความสำเร็จได้ รวมทั้งหนทางแก้ปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งก็มีหนึ่งเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้เราสามารถตั้งคำถามได้ตรงประเด็น ได้ข้อมูลครบถ้วน และสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ ที่รู้จักกันในชื่อว่า “5W2H”
5W2H คืออะไร ? THE BRIEFCASE จะพาไปหาคำตอบกัน
5W2H คือเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถรวบรวมข้อมูล ด้วยวิธีการตั้งคำถาม
ซึ่งข้อมูลที่รวบรวมมาได้นั้น ทำให้เรารู้ข้อเท็จจริง เข้าใจเหตุผลเบื้องหลัง รวมทั้งความเป็นมาของเหตุการณ์นั้น ๆ ทั้งหมดนี้จึงช่วยให้เราวิเคราะห์และแก้ปัญหาพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามต่อมาคือ 5W2H ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง..
5W คือ Who (ใคร), What (อะไร), Where (ที่ไหน), When (เมื่อไร) และ Why (ทำไม)
2H คือ How (ทำอย่างไร) และ How Much (ใช้เงินเท่าไรหรือได้ผลตอบแทนเท่าไร)
สมมติว่าเราถูกมอบหมายให้ทำการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ เรื่องการขายผลิตภัณฑ์ออกใหม่ให้แก่บริษัท โดยเราตั้งใจจะรวบรวมข้อมูลโดยใช้เครื่องมือ 5W2H ดังนี้
1. Who: ใคร
เป็นการตั้งคำถามว่า ใครเป็นผู้ที่จะมาใช้ผลิตภัณฑ์ออกใหม่ของบริษัท หรือใครคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เรากำลังมองหา กลุ่มเป้าหมายเป็นเพศอะไร อายุเท่าไร มีรายได้เท่าไร พฤติกรรมการบริโภคสินค้าเป็นอย่างไร เพราะเราต้องจำไว้ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าของธุรกิจเราได้
การระบุว่าใครคือลูกค้า จะช่วยทำให้เราเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ วางแผนทำการตลาด ได้อย่างเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
2. What: อะไร
เมื่อได้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว อันดับถัดมาที่ต้องคิดคือ ลูกค้าต้องการสินค้าอะไร หรือสินค้าอะไรที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
เพราะในบางครั้งสินค้าที่เรากำลังคิดอยู่ อาจเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตลาดก็ได้
ดังนั้น เราควรตั้งคำถามเพื่อนำไปสู่คำตอบให้ได้ว่า อะไรทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากสินค้า หรือบริการของคู่แข่ง
3. Where: ที่ไหน
การตั้งคำถามที่ดีจะช่วยรวบรวมข้อมูลได้ว่า ลูกค้าเป้าหมายอยู่ที่ไหน อยู่ในตัวเมืองหรือต่างจังหวัด อยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลโดยตรงต่อการวางแผนระบบโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ
เช่นเดียวกับการตั้งคำถามเพื่อติดตามพฤติกรรมผู้บริโภค เมื่อกลุ่มเป้าหมายหันมาใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้น ข้อมูลที่รวบรวมมาได้ควรเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนโปรโมตสินค้า การทำโฆษณา การตลาด
เพื่อสร้างโอกาสที่จะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
4. When: เมื่อไร
ข้อมูลจากคำถามที่ว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเราต้องการสินค้าเมื่อไร ? จะนำมาซึ่งประโยชน์ของการจัดสรรทรัพยากร รวมทั้ง การวางแผนการผลิตสินค้า การกำหนดกลยุทธ์ทางด้านการตลาด
เช่น การวางแผนกำลังคน การกำหนดระยะเวลาทดสอบสินค้าในตลาด การลดราคาสินค้า การแถมสินค้า หรือการแจกสินค้า
เมื่อธุรกิจออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ถูกจังหวะเวลา ย่อมช่วยทำให้ธุรกิจสามารถขายสินค้าและบริการประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
5. Why: ทำไม
อีกหนึ่งคำถามสำคัญที่เราควรให้ความสำคัญก็คือ “ทำไมลูกค้าต้องมาซื้อสินค้าของเรา” แทนที่จะซื้อจากคู่แข่ง ซึ่งการตั้งคำถามแบบนี้ จะช่วยให้เรามองสินค้าของเราจากมุมของลูกค้า ไม่ใช่มุมจากธุรกิจเรา
หรือแม้แต่ ทำไมเราจึงเลือกที่จะผลิตสินค้าประเภทนี้ให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย การตั้งคำถามแบบนี้ จะช่วยให้เราสามารถค้นพบข้อมูลบางอย่างที่เราอาจมองข้ามไปก่อนหน้านี้ได้
6. How: อย่างไร
ตั้งคำถามเพื่อหาข้อมูลให้ได้ว่า ธุรกิจของเราจะทำอย่างไร เพื่อให้สามารถขายผลิตภัณฑ์ออกใหม่นี้ ให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งในขั้นตอนนี้ ยังรวมไปถึงแนวทางที่จะเข้าถึงลูกค้าของเราได้ด้วยวิธีไหน ทำอย่างไรให้สามารถขายสินค้าได้ตามช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้
7. How Much : ผลตอบแทน/ใช้เงินทุนเท่าไร
ข้อสุดท้าย ที่มีความสำคัญไม่แพ้ข้ออื่น ๆ ก็คือ ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไร เพราะแม้จะทราบข้อมูลทั้งหมด แต่ถ้าขาดเงินลงทุนมาสนับสนุน การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้
ดังนั้น หากเรารู้ว่าจะใช้เงินลงทุนเท่าไร ก็จะวิเคราะห์ต่อไปได้ว่า ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับกลับมานั้น คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปหรือไม่
แต่ก็ต้องหมายเหตุว่า บางครั้งผลตอบแทนที่ได้รับกลับมา อาจไม่ได้อยู่ในรูปตัวเงินเสมอไป
เช่น ถ้าโรงงานของเรากำลังจะทำโครงการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ
ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับกลับมาในรูปตัวเงินไม่คุ้มค่า
แต่สำหรับประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
กรณีนี้ก็ถือว่าโครงการดังกล่าว ก็สามารถสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาได้ เช่นกัน
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า เครื่องมือที่ชื่อว่า 5W2H นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่น่าสนใจ สำหรับช่วยในการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจครบรอบด้าน ได้แบบตรงประเด็นผ่านการตั้งคำถาม 7 ข้อนั่นเอง..
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Five_Ws
-https://www.thinkleansixsigma.com/article/what-is-5w2h