มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน ?
23 พ.ค. 2021
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน ? | THE BRIEFCASE
เคยสงสัยไหมว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งโซเชียลมีเดียระดับโลกอย่าง Facebook
ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร และครอบครัวของเขาสนับสนุนเขาอย่างไร ให้เขากลายเป็นคนที่กล้าที่จะแตกต่าง และกล้าที่จะออกมาทำตามฝันของตัวเองเช่นนี้
วันนี้ THE BRIEFCASE จะพาไปรู้จักกับแนวคิดในการเลี้ยงดูลูกจาก คุณพ่อและคุณแม่ของมาร์ก
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขา
1) เป็นตัวอย่างด้านการทำงานให้กับลูก
โดยคุณพ่อของมาร์ก หรือ คุณเอ็ดเวิร์ด ซักเคอร์เบิร์ก นั้นทำอาชีพเป็นทันตแพทย์ โดยเขาได้ใช้บ้านของพวกเขาเป็นคลินิกทันตกรรม และมีภรรยาอย่างคุณแคเรน คุณแม่ของมาร์ก ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการคอยจัดแจงทุกสิ่งทุกอย่างภายในคลินิก
ซึ่งมาร์กเองก็โตมาพร้อม ๆ กับการได้เห็นพ่อแม่ของเขาทำงาน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดี ที่ทำให้มาร์กได้เห็นถึงการรับผิดชอบในหน้าที่
และการที่ครอบครัวของเขาทำงานที่บ้านนั้น ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้น ให้มาร์กได้ใกล้ชิดกับคอมพิวเตอร์เร็วกว่าเด็กคนอื่น ๆ เพราะต้องอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์ตลอดเวลานั่นเอง
2) สร้างความมั่นคง เพื่ออนาคตของลูก
พ่อของมาร์ก เชื่อว่า การที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ ที่กล้าที่จะเสี่ยงเพื่อทำอะไรใหม่ ๆ
พวกเขาต้องมีกองสนับสนุนที่ดี ซึ่งพ่อของมาร์กเองก็ได้ทำงานอย่างหนัก
เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านการเงินก่อนที่เขาจะแต่งงานมีครอบครัวเสียอีก
แม้พ่อของมาร์กเองจะยอมรับว่า เขามีความสนใจทางด้านคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่เด็ก ๆ
แต่ด้วยความที่เป็นครอบครัวชาวยิว ที่อาศัยในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงอย่างนิวยอร์ก
จึงทำให้ครอบครัวของเขา ต้องมองหาความมั่นคง มากกว่าความสนใจส่วนตัว..
ด้วยความที่อาชีพที่เกี่ยวกับการแพทย์อย่างหมอ ได้รับค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูงในสหรัฐอเมริกา
เขาจึงเลือกศึกษาด้านทันตแพทยศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU)
3) สนับสนุนในสิ่งที่ลูกชอบ
พ่อของมาร์กได้กล่าวว่า “อย่าพยายามยัดเยียดหรือชี้นำเส้นทางชีวิตที่เราต้องการให้กับลูกมากเกินไป แต่ให้พยายามที่จะสนับสนุนในจุดแข็งของเขา และเรียนรู้ว่าจุดแข็งเหล่านั้นคืออะไร และต้องการสนับสนุนอย่างไร”
ดังนั้นเมื่อตอนที่มาร์กยังเด็ก เขาจึงรู้ว่ามาร์กมีความสนใจด้านคอมพิวเตอร์เป็นพิเศษ เขาจึงได้ทำการติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มาร์กได้เรียนรู้การเขียนโคด
นอกจากนี้เขายังช่วยสนับสนุนให้มาร์ก ลองสร้างระบบส่งข้อความ (Instant Messaging) แบบง่าย ๆ ขึ้นมา โดยเป็นระบบที่ใช้พูดคุยระหว่างคอมพิวเตอร์ในออฟฟิศ เพื่อให้มาร์กได้เรียนรู้ในสิ่งที่เขาสนใจมากกว่าสิ่งที่โรงเรียนสอนนั่นเอง
4) อย่าลืมปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยตั้งแต่เด็ก ๆ
ถึงแม้ว่าจะเป็นพ่อแม่ที่มีความคิดก้าวหน้า และพร้อมสนับสนุนลูก ๆ ในทุก ๆ เรื่อง แต่คุณพ่อของมาร์กก็ได้เน้นย้ำว่า การปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยตั้งแต่ลูก ๆ ของเขายังเป็นเด็กนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเขาได้กล่าวว่า
“เด็กก็คือเด็ก สิ่งที่เขาต้องการจากคุณ ไม่มีอะไรนอกจากความเป็นพ่อแม่ ดังนั้นอย่าลืมตัวหรือกลัวที่จะต้องสั่งสอนพวกเขา”
อย่างในกรณีพ่อของมาร์กเอง เขาก็ได้แนะนำว่า ยิ่งเราแสดงออกว่าเราไม่ชอบในพฤติกรรมด้านลบของลูกเร็วขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อเด็กเร็วขึ้นเท่านั้น
เพราะพวกเขาจะเรียนรู้ได้ในทันทีว่า พฤติกรรมแบบไหนที่ไม่ควรทำ
5) สร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้บ้านเป็นสถานที่ทำงาน แต่พ่อและแม่ของมาร์กก็สามารถจัดการเวลาได้อย่างดี
ระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว
ซึ่งพ่อของมาร์กได้กล่าวว่า ถึงแม้ว่าลักษณะการใช้ชีวิตของพวกเขาอาจจะดูไม่ปกติเหมือนบ้านอื่น ๆ แต่เขาคิดว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษมาก เพราะเขาสามารถทำงานไปด้วย พร้อมกับเลี้ยงดูลูกไปด้วย ในเวลาเดียวกัน
ซึ่งเขาก็ได้กล่าวชมภรรยาด้วยว่า เธอเป็นบุคคลหนึ่ง ที่ทำให้สถานที่ทำงานเป็นเหมือนบ้านได้ โดยเธอสามารถแบ่งทำหน้าที่ระหว่างการเป็นแม่และผู้จัดการได้อย่างดี
สุดท้ายนี้ สิ่งที่คุณพ่อของมาร์กเสริมก็คือ อย่าลืมที่จะชมเชยลูกของคุณเสมอ
ถึงแม้ว่าลูกของคุณจะไม่ชอบโอ้อวดความสามารถของตนเองก็ตาม
โดยเขาได้กล่าวชมเชยมาร์กเสมอว่า มาร์กเป็นเด็กนักเรียนที่ดี
และเขาก็พูดเสมอว่า เขาภูมิใจในความสำเร็จของมาร์กและความสำเร็จของลูก ๆ ทุกคน
ดังนั้น จะเห็นว่าครอบครัวของมาร์กเองก็ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวทั่วไปที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไร
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ความใส่ใจในตัวลูก ๆ ของคุณเอ็ดเวิร์ด
การที่เขาก็ยังใส่ใจในทุก ๆ ก้าวของมาร์ก จึงไม่แปลกใจเลยว่า หนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของชายที่ชื่อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในวันนี้ก็คือครอบครัวของเขานั่นเอง..
References
-https://www.salon.com/2011/02/04/mark_zuckerberg_dad_interview/
-https://www.inc.com/bill-murphy-jr/want-to-raise-entrepreneurial-kids-mark-zuckerbergs-dad-says-do-these-things.html
เคยสงสัยไหมว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งโซเชียลมีเดียระดับโลกอย่าง Facebook
ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร และครอบครัวของเขาสนับสนุนเขาอย่างไร ให้เขากลายเป็นคนที่กล้าที่จะแตกต่าง และกล้าที่จะออกมาทำตามฝันของตัวเองเช่นนี้
วันนี้ THE BRIEFCASE จะพาไปรู้จักกับแนวคิดในการเลี้ยงดูลูกจาก คุณพ่อและคุณแม่ของมาร์ก
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขา
1) เป็นตัวอย่างด้านการทำงานให้กับลูก
โดยคุณพ่อของมาร์ก หรือ คุณเอ็ดเวิร์ด ซักเคอร์เบิร์ก นั้นทำอาชีพเป็นทันตแพทย์ โดยเขาได้ใช้บ้านของพวกเขาเป็นคลินิกทันตกรรม และมีภรรยาอย่างคุณแคเรน คุณแม่ของมาร์ก ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการคอยจัดแจงทุกสิ่งทุกอย่างภายในคลินิก
ซึ่งมาร์กเองก็โตมาพร้อม ๆ กับการได้เห็นพ่อแม่ของเขาทำงาน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดี ที่ทำให้มาร์กได้เห็นถึงการรับผิดชอบในหน้าที่
และการที่ครอบครัวของเขาทำงานที่บ้านนั้น ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้น ให้มาร์กได้ใกล้ชิดกับคอมพิวเตอร์เร็วกว่าเด็กคนอื่น ๆ เพราะต้องอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์ตลอดเวลานั่นเอง
2) สร้างความมั่นคง เพื่ออนาคตของลูก
พ่อของมาร์ก เชื่อว่า การที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ ที่กล้าที่จะเสี่ยงเพื่อทำอะไรใหม่ ๆ
พวกเขาต้องมีกองสนับสนุนที่ดี ซึ่งพ่อของมาร์กเองก็ได้ทำงานอย่างหนัก
เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านการเงินก่อนที่เขาจะแต่งงานมีครอบครัวเสียอีก
แม้พ่อของมาร์กเองจะยอมรับว่า เขามีความสนใจทางด้านคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่เด็ก ๆ
แต่ด้วยความที่เป็นครอบครัวชาวยิว ที่อาศัยในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงอย่างนิวยอร์ก
จึงทำให้ครอบครัวของเขา ต้องมองหาความมั่นคง มากกว่าความสนใจส่วนตัว..
ด้วยความที่อาชีพที่เกี่ยวกับการแพทย์อย่างหมอ ได้รับค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูงในสหรัฐอเมริกา
เขาจึงเลือกศึกษาด้านทันตแพทยศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU)
3) สนับสนุนในสิ่งที่ลูกชอบ
พ่อของมาร์กได้กล่าวว่า “อย่าพยายามยัดเยียดหรือชี้นำเส้นทางชีวิตที่เราต้องการให้กับลูกมากเกินไป แต่ให้พยายามที่จะสนับสนุนในจุดแข็งของเขา และเรียนรู้ว่าจุดแข็งเหล่านั้นคืออะไร และต้องการสนับสนุนอย่างไร”
ดังนั้นเมื่อตอนที่มาร์กยังเด็ก เขาจึงรู้ว่ามาร์กมีความสนใจด้านคอมพิวเตอร์เป็นพิเศษ เขาจึงได้ทำการติดตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อให้มาร์กได้เรียนรู้การเขียนโคด
นอกจากนี้เขายังช่วยสนับสนุนให้มาร์ก ลองสร้างระบบส่งข้อความ (Instant Messaging) แบบง่าย ๆ ขึ้นมา โดยเป็นระบบที่ใช้พูดคุยระหว่างคอมพิวเตอร์ในออฟฟิศ เพื่อให้มาร์กได้เรียนรู้ในสิ่งที่เขาสนใจมากกว่าสิ่งที่โรงเรียนสอนนั่นเอง
4) อย่าลืมปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยตั้งแต่เด็ก ๆ
ถึงแม้ว่าจะเป็นพ่อแม่ที่มีความคิดก้าวหน้า และพร้อมสนับสนุนลูก ๆ ในทุก ๆ เรื่อง แต่คุณพ่อของมาร์กก็ได้เน้นย้ำว่า การปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยตั้งแต่ลูก ๆ ของเขายังเป็นเด็กนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเขาได้กล่าวว่า
“เด็กก็คือเด็ก สิ่งที่เขาต้องการจากคุณ ไม่มีอะไรนอกจากความเป็นพ่อแม่ ดังนั้นอย่าลืมตัวหรือกลัวที่จะต้องสั่งสอนพวกเขา”
อย่างในกรณีพ่อของมาร์กเอง เขาก็ได้แนะนำว่า ยิ่งเราแสดงออกว่าเราไม่ชอบในพฤติกรรมด้านลบของลูกเร็วขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อเด็กเร็วขึ้นเท่านั้น
เพราะพวกเขาจะเรียนรู้ได้ในทันทีว่า พฤติกรรมแบบไหนที่ไม่ควรทำ
5) สร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใช้บ้านเป็นสถานที่ทำงาน แต่พ่อและแม่ของมาร์กก็สามารถจัดการเวลาได้อย่างดี
ระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว
ซึ่งพ่อของมาร์กได้กล่าวว่า ถึงแม้ว่าลักษณะการใช้ชีวิตของพวกเขาอาจจะดูไม่ปกติเหมือนบ้านอื่น ๆ แต่เขาคิดว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษมาก เพราะเขาสามารถทำงานไปด้วย พร้อมกับเลี้ยงดูลูกไปด้วย ในเวลาเดียวกัน
ซึ่งเขาก็ได้กล่าวชมภรรยาด้วยว่า เธอเป็นบุคคลหนึ่ง ที่ทำให้สถานที่ทำงานเป็นเหมือนบ้านได้ โดยเธอสามารถแบ่งทำหน้าที่ระหว่างการเป็นแม่และผู้จัดการได้อย่างดี
สุดท้ายนี้ สิ่งที่คุณพ่อของมาร์กเสริมก็คือ อย่าลืมที่จะชมเชยลูกของคุณเสมอ
ถึงแม้ว่าลูกของคุณจะไม่ชอบโอ้อวดความสามารถของตนเองก็ตาม
โดยเขาได้กล่าวชมเชยมาร์กเสมอว่า มาร์กเป็นเด็กนักเรียนที่ดี
และเขาก็พูดเสมอว่า เขาภูมิใจในความสำเร็จของมาร์กและความสำเร็จของลูก ๆ ทุกคน
ดังนั้น จะเห็นว่าครอบครัวของมาร์กเองก็ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวทั่วไปที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไร
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ความใส่ใจในตัวลูก ๆ ของคุณเอ็ดเวิร์ด
การที่เขาก็ยังใส่ใจในทุก ๆ ก้าวของมาร์ก จึงไม่แปลกใจเลยว่า หนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของชายที่ชื่อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในวันนี้ก็คือครอบครัวของเขานั่นเอง..
References
-https://www.salon.com/2011/02/04/mark_zuckerberg_dad_interview/
-https://www.inc.com/bill-murphy-jr/want-to-raise-entrepreneurial-kids-mark-zuckerbergs-dad-says-do-these-things.html